งานนี้เพื่อ ใครที่ถูกบอกว่าต้องกินตลอดชีวิต และจริง ๆ แล้ว เรา ๆ ท่าน ๆ ก็พิจารณาเอาเองได้ว่าควรหรือไม่ แต่วิธีการนี้ไม่ไช่สไตล์ผม
ยาป้องเลือดแข็งตัว และยาละลายลิ่มเลือด เป็นยา 3 กลุ่มที่คน (และหมอ) ทั่วๆ ไป มักจะเข้าผิดคิดว่าเป็นยาประเภทเดียวกัน เรียกกันสับสนอยู่เสมอ ยาทั้ง 3 ประเภทนี้เป็นยาที่ถูกใช้บ่อยในผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดตีบ แตกในสมองและคนที่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจกับยาทั้ง 3 ประเภทนี้ว่า ทำหน้าที่แตกต่างกันอย่างไร ใช้ในภาวะใดบ้างและข้อดีข้อเสียมีอะไร
ตามที่เคยย้ำไปหลายครั้งว่า ร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมาเพื่อการซ่อมแซมตัวเอง และการแข็งตัวของเลือดนั้นก็เป็นกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของมนุษย์ที่เกิดขึ้นเมื่อเรามีบาดแผลไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกร่างกาย โดยที่บาดแผลจะมีเกร็ดเลือดมาเกาะอยู่พร้อมๆ กับกระตุ้นให้โปรตีนต่างๆ ในเลือดมารวมตัวทำปฏิกิริยาเกิดเป็นลิ่มเลือดอุดตรงบาดแผลเพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ (ถ้าเป็นบาดแผลนอกตัว ก็คือ สะเก็ดแผลที่เราเห็น) เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลออกจากร่างกายหรือไหลเข้าไปสู่อวัยวะภายใน ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าจะเกิดการแข็งตัวของเลือด (ลิ่มเลือด) ได้ต้องเริ่มต้นที่เกร็ดเลือด
ถ้าบาดแผลเกิดขึ้นภายในหลอดเลือดที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจหรือที่ไปเลี้ยงสมอง ก็จะมีการเกาะตัวกันของเกร็ดเลือดและเกิดลิ่มเลือดตามมา ถ้ามากเกินพอก็จะทำให้ลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นนั้นอุดตันภายในหลอดเลือดก็จะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันได้ ดังนั้นในการป้องกันหรือรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันหรือภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือเลือดอุดตันในสมองเฉียบพลันนั้น การใช้ยาทั้ง 3 กลุ่ม คือ ยาต้านเกร็ดเลือด ยาละลายลิ่มเลือดและยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด จึงอาจจะมีประโยชน์ได้
มาว่ากันทีละตัวให้เข้าใจถ่องแท้กันไปเลย ดีมั๊ย
ยาต้านเกร็ดเลือด ออกฤทธิ์ทำให้เกล็ดเลือดซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของการเกิดลิ่มเลือดมาเกาะตัวรวมกัน จึงทำให้ไม่มีตัวกระตุ้นไปทำให้โปรตีนภายในเลือดมารวมตัวกันเป็นลิ่มเลือดได้ ตัวอย่างเช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) และโคลพิโดเรล (Clopidogrel) หรือซุปเปอร์แอสไพริน (Supper aspirin)
ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อต้านปฏิกิริยาของโปรตีนในเลือดซึ่งจะมาทำปฏิกิริยารวมตัวกันเกิดลิ่มเลือด (หลังจากเกร็ดเลือดเกาะตัวกันแล้ว) ตัวอย่างของยาประเภทนี้ ได้แก่ Heparin ที่ต้องให้โดยการฉีดใต้ผิวหนังหรือฉีดเข้าทางเส้นเท่านั้นและยา Cumadin หรือ Warfarin หรือบางครั้งมีชื่อการค้าว่า Orfarin ในบ้านเราซึ่งเป็นยาเม็ดใช้รับประทานได้
ยาละลายลิ่มเลือด คือ ยาที่ใช้สำหรับละลายลิ่มเลือดซึ่งเกิดขึ้นแล้วในร่างกาย (เกร็ดเลือดเกาะรวมตัวแล้วและโปรตีนในเลือดทำปฏิกิริยากันแล้ว) โดยปกติร่างกายจะมีระบบที่จะสามารถละลายลิ่มเลือดได้เองอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ในบางครั้ง เช่น ในภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันหรือภาวะอัมพาต อัมพฤกษ์ที่เกิดจากการที่หลอดเลือดถูกลิ่มเลือดอุดตันเหมือนกันนั้น เราอยากจะทำให้ลิ่มเลือดละลายหายไปได้โดยเร็วที่สุด การที่จะรอให้ร่างกายละลายลิ่มเลือดเองนั้นอาจจะไม่ทันการ จึงต้องใช้ยาบางประเภทซึ่งมีฤทธิ์ในการที่จะละลายลิ่มเลือดด้วยความรวดเร็ว ยาประเภทนี้เป็นยาที่ในปัจจุบันค่อนข้างแพงและต้องให้โดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดเท่านั้น ยังไม่มียาในรูปที่รับประทานได้
ทั้งยาต้านเกร็ดเลือด ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด และยาละลายลิ่มเลือดนั้น มีข้อดีตามที่ได้เล่าไว้ข้างต้น แต่ต้องไม่ลืมว่าการเกิดลิ่มเลือดนั้นเป็นระบบการป้องกันตัวของร่างกาย การให้ยาที่ป้องกันไม่ให้เกิดมีลิ่มเลือดหรือการที่จะทำให้ลิ่มเลือดหายไปนั้นก็จะทำให้มีผลเสียเช่นกัน คือ จะทำให้ผู้ที่ได้รับยาเกิดเลือดออกและเสียเลือดในปริมาณที่มากได้ นอกจากนี้อาจทำให้เลือดแข็งตัวยาก บางครั้งถ้าเลือดออกในอวัยวะที่สำคัญ เช่น สมองก็จะทำให้เป็นอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ได้อีกเหมือนกัน และผมขอย้ำทั้งแพทย์และท่านผู้อ่านว่า ถ้าเคยประสพอุบัติเหตุบริเวณโพรงจมูกให้บอกแพทย์ด้วยหรืออย่าซื้อยาประเภททั้งสองประเภทที่มีวางขายกันทั่วไปนี้มาทานเอง เพราะจะทำให้ท่านมีเลือดกำเดาชนิดสองวันก็ไม่หยุดจนต้องไปโรงพยาบาลอีกรอบ ดังนั้นการใช้ยาทั้ง 3 ประเภทก็ต้องใช้ในภาวะที่มีความจำเป็นและได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์เท่านั้น (โดยต้องยอมรับผลเสียที่อาจเกิดขึ้น)
ผู้ที่รับประทานยาแอสไพรินแบบต่อเนื่อง มีโอกาสเกิดภาวะเลือดออกโดยเฉพาะในทางเดินอาหารได้สูงขึ้น เนื่องจากแอสไพรินทำให้เกิดการระคายในกระเพาะอาหารและเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ แต่ถ้าให้ผมจ่ายเองนะ ผมจะจ่ายยาแอสไพรินขนาดของเด็ก (Baby Aspirin) เพราะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ในผู้ป่วยที่คร่ำครวญหาแต่ยา
แล้วเรา ๆ ท่าน ๆ คิดเหมือนผมมั๊ยว่า ทำไมเราไม่ไปป้องกันไม่ให้มีแผลในหลอดเลือดล่ะ ซึ่งไม่ยาก อยากรู้มั๊ยล่ะ มีความรู้จะบอกนะ
สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น