วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2560

อ้วน (ตอนที่ 4)

22 Aug 2014


และแล้วก็มาถึงตอนอวสานครับ ผมสรุปให้สั้นที่สุดครับโดยเรียงลำดับการกินเพื่อลดน้ำหนักโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย และ ไม่ขาดสารอาหารที่ร่างกายต้องการ สำหรับผู้ที่รับการบำบัดกับผม ผมแนะนำ 3 ทางเลือกดังนี้ครับ
1. สำหรับคนที่มีเวลาว่างเยอะและสะดวกในการทำอาหารเองครับ
สิ่งที่ต้องเตรียม
1 ผงอบเชย
2 น้ำมันมะพร้าวสกัด
3 ถั่วขาวต้มจืด
4 อัลมอนด์อบเอง (คั่ว)
5 น้ำมะขาม น้ำส้มแขก ชาเขียว สมอไทย ดอกคำฝอย แล้วแต่สะดวก
6 ผลไม้ รสไม่หวานจัด
ขั้นตอนมีดังนี้ครับ ตื่นเช้า ไม่ต้องแปรงฟันดื่มน้ำอุ่นผสม ผงอบเชย1หยิบมือ 1 แก้วแล้วตามด้วยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 2 ช้อนชา ในมื้ออาหารให้เอาถั่วขาวต้ม 2 ช้อนโต๊ะผสมกับข้าวสวย แล้วทานกับอาหารอย่างอื่นทุกมื้อ หลังอาหารให้ทาน อัลมอนด์ 10 เมล็ด ทุกมื้อ หลังอาหารเช้า40 นาที ดื่มน้ำอุ่นผสม ผงอบเชย1หยิบมืออีก 1 แก้ว
คราวนี้น้ำที่ใช้ดื่มทั้งวันขอเป็น น้ำมะขาม น้ำส้มแขก ชาเขียว สมอไทย ดอกคำฝอย แล้วแต่สะดวก อาหารทุกมื้อเน้นอาหารฤทธิ์ร้อนและเน้นผักกับปลาซึ่งโพสต์ไว้ ตอน อ้วน 3 ทานพออิ่มนะครับ คราวนี้ระหว่างมื้อถ้าหิว ก็ผลไม้ รสไม่หวานจัด ประเภท ฝรั่ง พุทรา แอ็ปเปิ้ล เป็นต้น หรือ อัลมอนด์นี่แหละดีครับ ตอนเย็นออกกำลังกาย อะไรก็ได้สัก 30 นาที มื้อเย็นนี่ต้องทานนะครับห้ามอดเด็ดขาด แค่นี้ครับสำหรับคนที่มีเวลา ตามรายงานบันทึกประวัติการบำบัด จะลดได้เฉลี่ยวันละ 400 กรัมครับ
2.สำหรับคนติดกาแฟเหมือนผม และดื่มน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นไม่ได้หรือทานแล้วรู้สึกคลื่นไส้ ลำไส้ปั่นป่วน อันนี้ผมต้องใช้สิ่งที่ผมเลี่ยงไม่ได้ครับ (ต้องไม่เคยทานยาลดความอ้วนมาก่อน)
สิ่งที่ต้องเตรียม
1.กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล หรือ กาแฟที่มีส่วนผสมตามนี้ครับ
แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) แอล-กลูตามีน (L-Glutamine) แอล-อาร์จินีน (L-Arginene) แอล-ไกลซีน (L-Glycine) โครเมียม อะมิโน แอซิต คีเลต (Chromium Amino Acid Chelate) แอสปาแตม (Aspartame) อะซีซัลเฟม-เค (Acesulfame-K)
2.ผงอบเชย
3.ถั่วขาวต้มจืด
4 อัลมอนด์อบเอง (คั่ว)
5 น้ำมะขาม น้ำส้มแขก ชาเขียว สมอไทย ดอกคำฝอย แล้วแต่สะดวก
6 น้ำมันดีแคปซูล ซึ่งประกอบไปด้วย น้ำมันงา 25 % น้ำมันรำข้าว 25% น้ำมันโบราจ 20% น้ำมันปลา 20% น้ำมันมะกอก 10 %
7 ผลไม้ รสไม่หวานจัด
ขั้นตอนมีดังนี้ครับ ตื่นเช้า ไม่ต้องแปรงฟันดื่มน้ำอุ่นผสม ผงอบเชย1หยิบมือ 1 แก้วแล้วค่อยดื่มกาแฟ นอกนั้นก็เหมือนที่กล่าวมาด้านบน ในรูปแบบนี้ จะลดได้ประมาณ วันละ 600 กรัม ครับ
3.แบบ วันละ 1 กิโลกรัม อันนี้ต้องใช้วิชาเยอะหน่อยครับ แต่ไม่ขาดสารอาหารแน่นอน
สิ่งที่ต้องเตรียม
1.กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล หรือ กาแฟที่มีส่วนผสมตามนี้ครับ
แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) แอล-กลูตามีน (L-Glutamine) แอล-อาร์จินีน (L-Arginene)
แอล-ไกลซีน (L-Glycine) โครเมียม อะมิโน แอซิต คีเลต (Chromium Amino Acid Chelate) แอสปาแตม (Aspartame) อะซีซัลเฟม-เค (Acesulfame-K)
2.ผงอบเชย
3.ถั่วขาวต้มจืด
4 อัลมอนด์อบเอง (คั่ว)
5 น้ำมะขาม น้ำส้มแขก ชาเขียว สมอไทย ดอกคำฝอย แล้วแต่สะดวก
6 น้ำมันดีแคปซูล ซึ่งประกอบไปด้วย น้ำมันงา 25 % น้ำมันรำข้าว 25% น้ำมันโบราจ 20% น้ำมันปลา 20% น้ำมันมะกอก 10 %
7 สารสกัดจากผลส้มแขก, เคลป์, แอล-คาร์นิทีน สารสกัดจากถั่วเหลือง, คอปเปอร์ อะมิโน แอซิด คีเลต ,ซิงค์ อะมิโน แอซิด คีเลต ,ซิลีเนียม อะมิโน แอซิด คอมเพล็กซ์ แมงกานีส อะมิโน แอซิด คีเลต ,สารสกัดจากชาเขียว, สารสกัดจากพริก ,โครเมียม อะมิโน แอดซิด คีเลต เป็นต้น
8 สารสกัดจากถั่วแดง, ถั่วเขียว,ถั่วดำ ,ถั่วขาว
9 ผลไม้ รสไม่หวานจัด
และทุกการปฏิบัติก็เหมือนด้านบนครับ
อันหลังสุดนี้ ไม่รวมผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำนะครับ ถ้ามีก็จะต้องปรับสมดุลไทรอยด์กันก่อนครับ ที่แน่ๆ ผู้มาบำบัดทุกคน ติดรสเค็มครับ ร่างกายจึงต้องดึงน้ำไว้เพื่อให้เกิดสมดุล ก็เท่านี้ล่ะครับ อยากจะลดสักกี่กิโล ไม่ใช่ความฝันแน่ๆครับ
ก่อนจากกัน หมอนอกกะลาก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีกันทุกถ้วนหน้าครับ สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น