ตอน... ด่าง
8 Feb 2016
หลายต่อหลายครั้งที่ผมพยายามเน้นย้ำถึงความเป็นด่างของร่างกายและให้พยายามปั่นน้ำผักกินกันซะบ้าง !!
ความเป็นด่างมันทำให้เซลล์ในร่างกายของเราชุ่มชื้นทุกเซลล์และช่วยให้หลอดเลือดแดงและเนื้อเยื่อสะอาด สุขภาพก็จะดีตามมา น้ำเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาสมดุลค่า pH ที่ละเอียดอ่อนให้มีค่าที่ 7.365 ในกระแสเลือดและเนื้อเยื่อของเรา
คุณรู้หรือไม่ว่าเครื่องดื่มดังต่อไปนี้มีค่า pH ต่ำกว่า 7 และทำให้ร่างกายเป็น
กรด นอกจากนั้นสิ่งนี้เองที่คร่าชีวิต ดาราที่แสนดีอย่างน้อง ปอ ทฤษฎี ของผม
กรด นอกจากนั้นสิ่งนี้เองที่คร่าชีวิต ดาราที่แสนดีอย่างน้อง ปอ ทฤษฎี ของผม
กาแฟ
น้ำหวานอัดลม
เครื่องดื่มอัดลมผสมสารให้ความหวาน
แอลกอฮอล์
นม
เครื่องดื่มนมผสมมอลต์
หรือแม้แต่น้ำผลไม้
น้ำหวานอัดลม
เครื่องดื่มอัดลมผสมสารให้ความหวาน
แอลกอฮอล์
นม
เครื่องดื่มนมผสมมอลต์
หรือแม้แต่น้ำผลไม้
น้ำส้มซึ่งมักจะได้รับการขนานนามว่าเป็นยาชูกำลังต่อสุขภาพที่ดีในช่วงฤดูหนาวและช่วงไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ระบาด ก็ยังมีค่าความเป็นกรดด่างประมาณ 3.4 ซึ่งทำให้ร่างกายเป็นกรด และลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน น้ำส้มมีความเป็นกรดมากกว่าเลือดของคุณถึง 10,000 เท่า!
ทบทวนวิชาเคมีด่วน: ในระดับพีเอช 7 คือค่าที่เป็นกลาง อะไรที่ต่ำกว่านี้จะมีสภาพเป็นกรดและในการวิจัยต่าง ๆ รายงานว่ามันส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรา ปริมาณของน้ำตาลหรือฟรักโตสในน้ำส้มจะชะลอกิจกรรมเซลล์เม็ดเลือดขาวราว 3-4 ชั่วโมง! ซึ่งส่งผลต่อเซลล์พวกนี้ในการทำหน้าที่ตอบสนอง การกำจัดแบคทีเรียและกำจัดขยะต่างๆที่เรานำเข้าไปในร่างกาย!
ผมเคยเห็นปรากฏการณ์นี้ในห้องปฏิบัติการภายใต้กล้องจุลทรรศน์ เซลล์เม็ดเลือดขาวที่สามารถมองเห็นได้จะชะลอตัวลงและกลายเป็นอัมพาตในน้ำเลือด จึงไม่น่าแปลกใจที่โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ อัมพาต และอีกมากมายมักเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดเมื่อมีเครื่องดื่มหวานมากขึ้นกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ
เราเรียกความกังวลเกี่ยวกับค่า pH ของร่างกายนี้ว่า "ชีววิทยาสมัยใหม่" ต่อสุขภาพที่ดี ระดับค่า pH เผยให้เห็นถึงวิธีการทำงานพื้นฐานของร่างกาย ของสุขภาพและโรค ความเข้าใจนี้บางทีมันแตกต่างจากสิ่งที่หนังสือชีววิทยาหรือครูของเราเคยสอนเราหรือแม้แต่ความเข้าใจทางการแพทย์ที่ล้าสมัย
มุมมองด้านค่า pH คำนึงถึงวิธีการที่ระบบย่อยอาหารของเราทำงานและวิธีการก่อให้เกิดเลือดและเนื้อเยื่อที่มีคุณภาพดี
อ้างจากงานเขียนของ Dr. Robert O. Young, any beverage you drink – or any food you eat for that matter –เครื่องดื่มที่คุณดื่มหรืออาหารที่คุณเอาเข้าไปในปาก ต่อมน้ำลายจะผลิตโซเดียมไบคาร์บอเนตทันทีเพื่อที่จะเริ่มต้นกระบวนการทำให้ของเหลวที่ผ่านเข้าปากแล้วเคลื่อนสู่หลอดอาหารลงไปในกระเพาะอาหารเป็นด่าง เมื่อเครื่องดื่มถึงกระเพาะอาหาร ไพโลรัส (Pylorus) ซึ่งเป็นส่วนปลายที่ติดต่อกับลำไส้เล็กจะหลั่งโซเดียมไบคาร์บอเนตเพื่อ เริ่มกระบวนการนี้อีกเช่นกัน
!! คุณเคยสงสัยเหมือนผมมั๊ยว่า " นี่คือเหตุผลที่หลายธุรกิจนำเรื่อง ความเป็นด่างมาทำมาหากินกันหรือเปล่า”
งานวิจัยของ Dr. Young ระบุอีกว่าโซเดียมไบคาร์บอเนตถูกผลิตในกระเพาะอาหารและผลพลอยได้คือกรดไฮโดรคลอริค เครื่องดื่มหรืออาหารยิ่งเป็นกรดมากขึ้นกระเพาะอาหารก็ยิ่งผลิตโซเดียมไบคาร์บอเนตมากขึ้นเพื่อทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นด่างก่อนที่พวกเขาจะเข้าสู่ลำไส้เล็ก (ลำไส้เล็กต้องรักษาค่า pH 9) ในทำนองเดียวกัน ยิ่งผลิตไบคาร์บอเนตมากเท่าไหร่ก็จะมีผลพลอยได้กรดไฮโดรคลอริกเพิ่มขึ้นมาเช่นกันและทิ้งมันไว้ในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีสำหรับคนจำนวนมากที่นิยมกินอาหารที่เป็นกรดสูงซึ่งมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน พวกเขามีกรดไฮโดรคลอมากเกินไปและ เป็นกรดที่ไม่ได้ใช้โดยร่างกายสำหรับการย่อยอาหาร แต่เป็นเพียงผลพลอยได้ส่วนเกินจากการผลิตโซเดียมไบคาร์บอเนตที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อ กระบวนการทำให้อาหารเป็นด่าง
!! ผมว่าคราวนี้คุณคงจะได้เห็นความสัมพันธ์กันแล้วนะครับ !!
ดังนั้นคนที่บริโภคเครื่องดื่มที่เป็นกรดอย่างต่อเนื่องก็เท่ากับว่าเป็นการทำให้กระเพาะอาหารทำงานงานเต็มเวลาในการย่อยอาหารและเพิ่มกรดไฮโดรคลอริกให้มากยิ่งขึ้น มากกว่าการทำงานในการย่อยอาหารที่เรียบง่าย แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นนักเคมี คุณก็สามารถจินตนาการสิ่งเหล่านี้ได้ และนี่คือเหตุผลที่ผมย้ำนักย้ำหนาว่า น้ำผึ้ง เหมาะกับการใช้ภายนอกเท่านั้น ถ้าพอจะจำกันได้ ผลไม้รสหวาน ก็สร้างปัญหานี้เช่นเดียวกัน
!! ดื่มหรือกินอาหารที่ค่า pHใกล้เคียงกับค่า pH ตามธรรมชาติของเลือดและเนื้อเยื่อของมนุษย์
ด้วยหลักการนี้ คุณก็สามารถปรับปรุงสุขภาพของคุณได้ ผมขอท้าให้คุณทดลองกับตัวเอง: ผมขอท้าให้เพิ่มน้ำผักสีเขียวดิบปั่น (อาจจะเป็น ผักโขม แตงกวา ผักชีฝรั่ง คื่นฉ่าย เซลารี่ทุกเช้า) และดื่มอย่างนี้ไปสักสัปดาห์แล้วคุณจะรับรู้ได้ว่ารู้สึกอย่างไร
นี่คือคำถามล่วงหน้า:
- คุณสังเกตเห็นการรบกวนทางเดินอาหารน้อยลงหรือไม่
- คุณมีพลังงานมากขึ้นหรือไม่
- คุณลดน้ำหนักที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งคุณได้ต่อสู้กับมันมายาวนานหรือไม่
- คุณมีพลังงานมากขึ้นหรือไม่
- คุณลดน้ำหนักที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งคุณได้ต่อสู้กับมันมายาวนานหรือไม่
บางคนที่เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงด้วยวิธีนี้น้ำหนักจะหายไปจริงราวครึ่งกิโลกรัมต่อวัน อย่างไม่น่าเชื่อ!
ให้คุณลองเริ่มต้นด้วย แตงกวากับผักโขม (ซึ่งมีปริมาณโปรตีน 49%) และอะโวคาโดซึ่งมีโพแทสเซียมมากกว่ากล้วยสุก เพิ่มผักสีส้มแดงเล็ก ๆ น้อย ๆ เนื้อมะพร้าวเพื่อพลังงาน นั่นแหละคุณพร้อมที่จะไปต่อสู้กับเวลาทำงานในช่วงเช้าของคุณแล้วล่ะครับ!
จริง ๆ ชีวิตเดิม ๆ มันง่ายนะครับ เพียงแต่โฆษณา การตลาด และความโลภ มันช่างทำลายมนุษย์ได้ดีแท้ครับ
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น