วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2560

โรคเกาต์กับถั่ว

16 Apr 2016
หลังจากได้พบปะเพื่อนฝูงในงานเลี้ยงรุ่นปีนี้ก็พบว่า เพื่อน ๆ หลายคน โดนเกาต์รับประทานกันเป็นแถบ ๆ และดูเหมือนว่าจะมีความสับสนกันเป็นอย่างมากในส่วนของพิวรีนในถั่ว แน่นอนที่สุด ...เมื่อก่อนมนุษย์เชื่อว่าโลกแบน..แต่หลังจากมีการพิสูจน์ มันกลับกลมซะงั้นและดูเหมือนว่าความรู้เรื่องถั่วจะออกนอกลู่นอกทางไปพอสมควรในความเข้าใจของผู้ให้บริการทางสุขภาพแก่ประชาชนดังนั้นผมจะแบ่งปันข้อเท็จจริงกับเราๆ ท่าน ๆ ที่นี่
แน่นอนที่สุดว่า!!มนุษย์สร้างเอ็นไซม์ยูริเคสไม่ได้แต่สัตว์มีและคนที่เป็นเกาต์ปัญหาอยู่ที่ประสิทธิภาพของไตในการขับกรดยูริค หลักการที่ถูกต้องจึงควรเริ่มที่การซ่อมแซมไต
โดยปกติอาหารที่มีโปรตีนสูงก็จะมีพิวรีนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย..... แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณควรหลีกเลี่ยงถั่ว
เมื่อคำนึงถึงแคลอรี่:ถั่วจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานกว่าเนื้อสัตว์เพราะมีเส้นใยสูง..ถั่วสุกหนึ่งถ้วยให้ประมาณ 12 กรัมของเส้นใยในขณะที่เนื้อสัตว์ไม่ได้มีเส้นใยใด ๆ เลย ความแตกต่างระหว่างการรับประทานถั่วให้มากกว่าเนื้อสัตว์ก็เพราะไฟเบอร์ในถั่วย่อยช้าจึงทำให้คุณอิ่มได้นานกว่า นอกจากนี้ถั่วมีน้ำตาลน้อยซึ่งจะช่วยขัดขวางอินซูลินที่จะให้คุณหิว คุณจะไม่พบการรวมกันของเส้นใยโปรตีนนี้ในอาหารอื่น ๆ เช่นผักผลไม้ นม ธัญพืช เนื้อ และเมล็ดพืช
ถั่วมีอะไรอย่างอื่นมากกว่าเนื้อสัตว์หรือไม่
ถั่วมีสารอาหารจากพืช (phytochemicals) และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก คุณทราบหรือไม่ว่ากระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาวัดระดับสารต้านอนุมูลอิสระในกว่า 100 ชนิดอาหารและถั่วที่อยู่ใน 3 ลำดับแรกจาก 100 -ถั่วแดงขนาดเล็ก -ถั่วแดงและถั่วปิ่นโต (pinto beans) อยู่ในอันดับบนทำให้ถั่วเป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบ หนึ่งถ้วยของถั่วยังมีโปรตีน 15 กรัมซึ่งเทียบเท่าของ เนื้อสัตว์เช่นไก่หรือปลาเช่นปลาแซลมอนที่ 56.70 กรัม
!!! หลักฐาน
หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าพิวรีนของถั่วและผักไม่ซ้ำเติมอาการของโรคเกาต์และคุณสามารถกินถั่วต่อไปเท่าที่คุณต้องการ สิ่งเดียวที่คุณควรกังวลก็คือโปรตีนจากสัตว์เช่นเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ กุ้งและเครื่องในสัตว์ สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ซ้ำเติมเติมอาการโรคเกาต์
การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ 2004 the New England Journal of Medicine มีผลการศึกษาพบว่าคนที่กินโปรตีนจากสัตว์มากขึ้นมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น 40% ถึง 50% ของการพัฒนาโรคเกาต์ ผู้เขียนผลงานนี้รวมถึง H.K. Choi ซึ่งได้ข้อสรุปว่าการบริโภคถั่วดูเหมือนจะไม่ก่อให้เกิดอาการโรคเกาต์ ในความเป็นจริงแล้วคนที่มีโรคเกาต์ควรเปลี่ยนโปรตีนจากเนื้อสัตว์มาเป็นโปรตีนจากถั่วและโปรตีนจากพืชอื่น ๆแทน
นอกจากมันจะย่อยง่ายกว่าแล้วนอกจากนี้โปรตีนจากพืชยังช่วยลดระดับของไขมันอิ่มตัวที่มีการเชื่อมโยงทางอ้อมกับการโจมตีของโรคเกาต์!
อีกการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ “Gout and the Singapore Chinese Health Study” ทำการตรวจสอบในชาวจีน 50,000 คนในสิงคโปร์และพบว่าผู้ที่กินผลิตภัณฑ์จากถั่วมากสามารถลดความเสี่ยงของโรคเกาต์เมื่อเทียบกับผู้ที่กินถั่วน้อย ในความเป็นจริงของการทดสอบเลือดแสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้เพิ่มกรดยูริคในอาสาสมัครเลย
มีหลายบทความบนอินเทอร์เน็ตทำให้คุณกลัวและให้หลีกเลี่ยงอาหารพิวรีนและถั่วก็เป็นส่วนหนึ่งของอาหารเหล่านั้นทั้ง ๆ ที่ไร้งานวิจัยหรือหลักฐานมายืนยันซึ่งตรงข้ามความจริงที่ผมนำเสนออยู่นี้ ถั่วเป็นอาหารที่ปลอดภัยที่จะกินโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการโจมตีของโรคเกาต์ใด ๆ
ท้ายที่สุด ผู้ป่วยโรคเกาต์ได้แสดงให้ผมเห็นว่าซุปถั่วดำสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคเกาต์ได้ มันเป็นวิธีการรักษาที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไต้หวันและแพร่กระจายไปทั่วโลกเพราะมันมีสารเคมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า anthocyanins และเป็นผู้รับผิดชอบที่ทำให้ถั่วดำมี "สีดำ" สีของanthocyanins ยังพบในผลเบอร์รี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแบล็กและบลูเบอร์รี่ ลูกหว้า อัญชัน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการศึกษาใดๆเลยที่จะพิสูจน์สิ่งนี้ แต่ถ้าคุณต้องการลองคุณก็ไม่มีอะไรจะเสีย
สิ่งที่จะทำน้ำซุปถั่วดำก็เพียงแค่ต้มถั่วดำ 200g ในน้ำเดือดประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นคุณสามารถกินถั่วกับน้ำซุปได้เลย
เอาล่ะ ถั่วที่ผมพูดถึงก็คือ ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว สีขาวตาดำ ถั่วอื่น ๆ แต่....
!!!! ห้ามถั่วเหลืองนะครับเพราะแค่มันมีคุณสมบติในการยับยั้งทริปซินในการย่อยโปรตีนก็เพียงพอที่จะไม่กินแล้วล่ะครับ
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
สวัสดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น