วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ต้องเลือกแล้วล่ะ...ผึ้งเหรอ

24 Nov 2015
ผมนี่แหละชื่อ ผึ้ง แล้วทำไมผมจะไม่รู้ว่าน้ำของผมควรใช้แบบไหนจึงจะดี อุตส่าห์ไปทำรังไว้ซะสูงก็ยังดันทุรังไปเอามากินกันจนได้ เอากับมนุษย์ซิ..เอาล่ะมาอ่านกันดีกว่า
คงเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปแล้วว่าร่างกายโดยเฉพาะสมองต้องการแต่กลูโคสซึ่งหาได้จากหลายแหล่ง และพบมากในหัวของพืช อาทิ เผือก มัน เป็นต้น
น้ำผึ้งได้ความหวานจากมอโนแซ็กคาไรด์ ฟรักโทสและกลูโคส และมีความหวานประมาณเทียบได้กับน้ำตาลเม็ด[1][2] น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทางเคมีที่ดึงดูดในการอบ(ความหอมของมัน) และมีรสชาติพิเศษซึ่งทำให้บางคนชอบน้ำผึ้งมากกว่าน้ำตาลและสารให้ความหวานอื่น ๆ [1] จุลินทรีย์ส่วนมากไม่เจริญเติบโตในน้ำผึ้งเพราะมีค่าแอกติวิตีของน้ำต่ำที่ 0.6[3] อย่างไรก็ดี บางครั้งน้ำผึ้งก็มีเอนโดสปอร์ในระยะพักตัวของแบคทีเรีย Clostridium botulinum ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทารก เพราะเอนโดสปอร์สามารถแปลงเป็นแบคทีเรียที่ผลิตชีวพิษในทางเดินอาหารที่ยังไม่เจริญเต็มที่ของทารก หรือเป็นตัวสุดแสบในผู้ป่วยลำไส้รั่ว ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บป่วยและอาจถึงแก่ชีวิตได้[4]
น้ำผึ้งเป็นสารผสมของน้ำตาลกับสารประกอบอื่น น้ำผึ้งส่วนใหญ่เป็นฟรักโทส (ราว 38.5%) และกลูโคส (ราว 31.0%) [1] ที่เหลือในน้ำผึ้งมีมอลโทสและคาร์โบไฮเดรตซับซ้อนอื่น ๆ [1] เช่นเดียวกับสารให้ความหวานทุกชนิด น้ำผึ้งส่วนใหญ่เป็นน้ำตาลและมีวิตามินหรือแร่ธาตุอยู่เล็กน้อย[5][6] น้ำผึ้งยังมีสารประกอบหลายชนิดในปริมาณน้อยซึ่งคาดกันว่าทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงไครซิน พิโนแบค์ซิน วิตามินซี คาตาเลสและพิโนเซมบริน[7][8] องค์ประกอบที่เจาะจงของน้ำผึ้งแต่ละกลุ่มนั้นขึ้นอยู่กับดอกไม้ที่ผึ้งใช้ผลิตน้ำผึ้ง[5]
ผลการวิเคราะห์น้ำผึ้งมีสารดังต่อไปนี้
ฟรักโทส 38.2%
กลูโคส 31.3%
มอลโทส 7.1%
ซูโครส 1.3%
น้ำ 17.2%
น้ำตาลที่สูงกว่า 1.5%
เถ้า 0.2%
อื่น ๆ /ไม่กำหนด 3.2%[9]
ค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ระหว่าง 31 ถึง 78 แล้วแต่ชนิด[10] น้ำผึ้งมีความหนาแน่นราว 1.36 กิโลกรัมต่อลิตร (หนาแน่นกว่าน้ำ 36%) [11]
สรรพคุณของน้ำผึ้งในการใช้เป็นยา
ลดการอักเสบ :
หากมีบาดแผลหรือแผลถลอกให้ล้างด้วยน้ำเบกกิ้งโซดา หรืออบเชย ชาใบผักชี (ที่เย็นแล้ว) ซึ่งมีสรรพคุณฆ่าเชื้อทั้งสิ้น อาจใช้ชาดำธรรมดา น้ำมันหอม และน้ำมันกระเทียมช่วยล้างด้วยเพื่อห้ามเลือด จากนั้นทาน้ำผึ้งสะอาดบนแผล น้ำผึ้งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อและทำให้แผลหายเร็ว
รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา :
ใช้ผงขมิ้นผสมน้ำผึ้งทาบริเวณกลากเกลื้อน วันละ 2 ครั้ง
ผิวหน้าสดใส :
ผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยนหรือต้องการบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ มีวิธีง่าย ๆ ดังนี้คือ หลังจากล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้งแล้ว นำกล้วยหอม 1/2 ลูก นำมาบดผสมกับน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อน แล้วนำมาทาบนหน้า ทิ้งไว้ซัก 10-15 นาที แล้วล้างออก น้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อนจะมีเอ็นไซน์ ซึ่งทำให้หน้าคุณชุ่มชื่นและนุ่มนวลขึ้น
เพื่อผมเงางาม:
หลังสระผมเสร็จนำน้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อนผสมกับน้ำมะกอกอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ นำมาชโลมผมแล้วทิ้งไว้ซัก 3-5 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผมคุณจะนิ่มและเงางามตามธรรมชาติปราศจากสารเคมีใด ๆ
และตามประสบการณ์ของผม ผู้ป่วยที่กินน้ำผึ้งมาอย่างต่อเนื่องตัวจะเหลืองเพราะอะไรน่ะรึ ก็เพราะตับต้องทำงานหนักในการย่อยฟรักโตส ยังไงล่ะครับ
คราวนี้ก็ลองใคร่ครวญและชั่งน้ำหนักกันดูนะ ว่า ถ้ากินเข้าไปแล้ว ให้โทษมากกว่าให้คุณ เราจะเลือกอะไรกันดี
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
สวัสดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น