วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

หลอดเลือดอักเสบ 1

7 May 2015
ผมขอเริ่มที่อาการก่อนนะครับ เพื่อจะได้สังเกตุตัวเองกันดี ๆ แต่ไม่ใช่ตระหนกตกใจ หรือกังวลใจนะครับ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายนักหรอก ก็อย่างที่บอกครับ ภาวะนี้ก็มาจากการมุ่งมั่นในการซ่อมแซมตัวเองของร่างกาย ในแต่ละชนิดของโรคหลอดเลือดอักเสบ อาการจะแตกต่างกันไป ขึ้นกับว่าแต่ละโรคมีหลอดเลือดอักเสบที่อวัยวะใดเป็นหลัก ชนิดของหลอดเลือดที่มีการอักเสบ (รวมถึงตำแหน่งภายในอวัยวะที่มีการอักแสบ)และจำนวนอวัยวะที่มีหลอดเลือดอักเสบ
ดังนั้นโรคในกลุ่มนี้แต่ละโรค จึงมักมีอาการที่คล้ายคลึงกันและคาบเกี่ยวกันอยู่ ในขณะเดียวกันผู้ป่วยที่เป็นโรคเดียวกัน อาจมีอาการแตกต่างกันได้ตามความรุนแรงของโรค อาการของการอักเสบที่เกิดขึ้นในแต่ละอวัยวะ เช่น
ผิวหนัง หากการอักเสบของหลอดเลือดเกิดที่ผิวหนัง ผู้ป่วยจะมีอาการได้หลากหลาย ตั้ง แต่ผื่นชนิดแบนเรียบ ผื่นนูนขนาดเล็ก ผื่นนูนขนาดใหญ่ ผื่นที่เป็นจ้ำเลือดนูน ปื้นนูนแดงเหมือนลมพิษ ผื่นชนิดเรียบสีม่วงแดงรูปร่างเป็นร่างแห คล้ายตาข่าย หรืออาจปรากฏเป็นตุ่มน้ำใส เป็นแผลถลอก หรือผิวหนังเกิดเนื้อตายก็ได้ โรค Hypersensitivity vasculitis จะพบอาการนี้เป็นหลัก แต่โรคอื่นๆ ก็อาจจะพบอาการทางผิวหนังนี้ได้
ปอด หากมีอาการอักเสบของหลอดเลือดในปอด ผู้ป่วยอาจมีอาการเหนื่อย หอบ ไอ หรือมีไอเป็นเลือด เจ็บแน่นหน้าอก โรค Wegener’s granulomatosis และ Churg-Strauss syn drome จะพบอาการนี้เป็นหลัก
ไต การอักเสบของหลอดเลือดที่ไต หากไม่รุนแรงผู้ป่วยจะไม่มีอาการ แต่เมื่อนำปัสสาวะไปตรวจจะพบโปรตีนและเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะได้ หากเป็นรุนแรงจะทำให้การทำงานของไตเสื่อมลง จนกระทั่งเกิดโรคไตเรื้อรัง หรือไตวาย ผู้ป่วยก็จะมีอาการของไตวาย เช่น มีความดันโลหิตสูง หนังตาและขาบวม คลื่นไส้ อาเจียน โลหิตจาง (ภาวะซีด) อ่อนเพลีย คันตามผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งมักจะพบในโรค Polyarteritis nodosa, Microscopic polyangiitis, และWegener’s granulomatosis
ทางเดินอาหาร หากหลอดเลือดของกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือ ท้องผูก อาจเกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ และทำให้มีเลือดออก จนถ่ายเป็นเลือดหรืออาเจียนเป็นเลือดได้ หากการอักเสบรุนแรง จะทำให้ลำไส้ขาดเลือดไปเลี้ยง เกิดลำไส้เน่าและทะลุในที่สุด นอกจากนี้ตับและตับอ่อนอาจเกิดเนื้อตายจากการขาดเลือดไปเลี้ยงได้อีกด้วย ทั้งนี้ โรค Polyarteritis nodosa, Microscopic polyangiitis, และ Henoch-Schonlein purpura (ในเด็ก) มักจะพบอาการเหล่านี้
หัวใจ หากหลอดเลือดหัวใจอักเสบ จะทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (โรคหลอดเลือดหัวใจ) ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกร้าวไปคอหรือแขนซ้าย โดยจะเป็นเวลาที่ออกแรงทำ งาน มีอาการหน้ามืดเป็นลม และอาจเกิดภาวะหัวใจวาย ผู้ป่วยก็จะมีน้ำท่วมปอด หอบเหนื่อย
แต่หากเกิดการอักเสบของหลอดเลือดที่เลี้ยงเยื่อหุ้มหัวใจ จะมีอาการเจ็บหน้าอกตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาหายใจเข้าลึกๆ เวลากลืนอาหาร และเวลาอยู่ในท่านอน มีไข้ต่ำๆ ไอและเหนื่อยได้ โรคที่จะพบอาการของหัวใจได้ ได้แก่ Churg-Strauss syndrome, Polyarteritis nodo sa และ Microscopic polyangiitis
สำหรับโรค Kawasaki disease จะเกิดการอักเสบขึ้นที่หลอดเลือดใหญ่ที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary artery) และตามมาด้วยการโป่งพองออกของหลอดเลือดด้วย เรียกว่า Aneurysm ซึ่งอาจเกิดโป่งพองเป็นระยะตลอดทั้งหลอดเลือด และภายในหลอดเลือดที่โป่งพองนี้ จะถูกอุดตันด้วยลิ่มเลือด ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดมาเลี้ยงและตายได้
สมอง หากหลอดเลือดในสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะรุนแรง การคิด การเรียนรู้ การจดจำแย่ลง หรือมีอาการเหมือนเป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต เช่น แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก ชาครึ่งซีก เป็นต้น โดยโรค Central nervous system vasculitis จะพบหลอดเลือดอักเสบเฉพาะในสมองอย่างเดียว ในขณะที่โรคหลอดเลือดอักเสบชนิดอื่นๆ อาจพบการอักเสบของหลอดเลือดในสมองร่วมกับการอักเสบของหลอดเลือดในอวัยวะอื่นๆได้
เส้นประสาท หากหลอดเลือดที่มาเลี้ยงเส้นประสาทมีการอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการชาและอ่อนแรงของกล้ามเนื้อบริเวณที่เส้นประสาทเส้นที่ไปเลี้ยง เช่น ถ้าเกิดกับหลอดเลือดของเส้น ประสาทขาซ้าย ก็จะเกิดอาการชาและอ่อนแรงของขาซ้าย เป็นต้น
กล้ามเนื้อและข้อต่อ จะมีอาการปวด และบวมของข้อต่อที่มีหลอดเลือดอักเสบเกิดขึ้น หรือมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มักพบในโรค Essential mixed cryoglobulinemia, Polyarteritis nodosa และ Microscopic polyangiitis
ดวงตา จะมีอาการ เช่น มีเยื่อบุตาแดง คันตา ปวดตา ตากลัวแสง มองเห็นภาพไม่ชัด หากรุนแรงมากอาจถึงขั้นตาบอด มักจะพบในโรค Behcet’s disease
หู คอ จมูก มีอาการได้หลากหลาย เช่น เกิดโพรงอากาศข้างจมูก/ไซนัสอักเสบ ผู้ป่วยก็จะมีไข้ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ เป็นต้น หากเกิดที่หูชั้นกลางอักเสบ ก็จะมีอาการปวดหู มีน้ำไหลจากหู การได้ยินลดลง อาจรุนแรงถึงขั้นหูหนวก หรืออาจพบแผลตื้นๆตามเยื่อบุช่องปาก เยื่อบุจมูก อาการเหล่านี้มักพบในโรค Wegener’s granulomatosis
อื่นๆ โรคหลอดเลือดอักเสบบางโรคอาจมีการอักเสบเฉพาะหลอดเลือดบางเส้นทำให้มีลักษณะที่เฉพาะได้ เช่น โรค Giant cell arteritis ผู้ป่วยมักจะมีหลอดเลือดแดงชื่อ Temporal artery อักเสบ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ เจ็บหนังศีรษะ คลำหลอดเลือดบริเวณขมับได้แข็งเป็นลำ เป็นต้น
หรือในโรค Takayasu’s arteritis มักจะเกิดการอักเสบที่หลอดเลือดแดงชื่อ Subclavian artery ซึ่งทำหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงที่แขน ผู้ป่วยก็จะมีการปวดแขน โดยเฉพาะเมื่อออกแรงใช้แขนทำงาน หากจับชีพจรจะคลำได้เบากว่าเมื่อเทียบกับแขนอีกข้าง หรือหากวัดความดันโลหิตที่แขนทั้ง 2 ข้าง ค่าที่ได้จะไม่เท่ากัน เป็นต้น
แต่นอกจากนี้หลอดเลือดส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็สามารถเกิดการอักเสบได้
อนึ่ง นอกจากจะมีอาการที่เกิดขึ้นตามแต่ละอวัยวะดังกล่าวแล้ว ทุกโรคของหลอดเลือดอักเสบจะพบอาการโดยรวมที่เป็นผลจากการอักเสบที่เกิดขึ้นทั่วร่างกาย โดยอาการจะคล้ายกับโรคอื่นๆที่มีการอักเสบเกิดขึ้น เช่น อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยเนื้อตัว เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น
นี่ครับ ถ้ามีอาการเหล่านี้เรื้อรัง อย่ามัวแก้ที่ปลายเหตุกันนะครับ เพราะการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษอื่นๆ ในปัจจุบันสามารถตรวจหาต้นเหตุได้ แต่ผู้ป่วยมักไม่มีความรู้ที่จะขอตรวจ และถ้าขอตรวจก็ต้องตรวจอย่างน้อย 12 รายการรวมถึงการตัดชิ้นเนื้อเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา โดยอาจจะตัดจากเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่เกิดอาการ เช่น ผิวหนัง ปอด ไต เป็นต้น
สั้นได้แค่นี้ครับ รอตอนสองนะครับ
สวัสดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น