วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ประโยชน์ของอัลมอนด์

25 Jul 2014
งานนี้ส่งถึงคุณพี่ Kanchit Rattanaphan ที่ผมรัก เคารพครับ ไม่ทราบว่าคุณพี่ท่านจะพอจำผมได้หรือไม่(แต่ช่างเถอะครับ) รวมไปถึงท่านที่เลี่ยงอาหารขยะไม่ได้จริงๆ ต้นเหตุเหรอครับ คุณพี่ท่านมักจะโพสต์ชวนทานโน่นนีี่ๆนั่นเป็นประจำ ผมเห็นแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่มันไม่ค่อยดีต่อสุขภาพสักเท่าไหร่ครับ ซึ่งมักจะเป็นอาหารกลุ่ม พลังงาน โปรตีน และไขมัน และขาดวิตามินกับเกลือแร่ และถ้าคุณพี่ท่านทานแบบนี้บ่อย ๆ ค่า pH ของร่างกายจะมีความเป็นกรดได้ง่าย สิ่งที่ตามมาก็อืกเยอะครับ ผมให้เริ่มที่ปวดเมื่อยต้นคอก่อน ตามมาด้วยปวดไหล่ และอีกเยอะครับ หลังจากที่ใคร่ครวญจนถ้วนถี่ ไอ้นี่ครับมันเหมาะกับคุณพี่และทุกคน ยิ่งคนอ้วนหน่อยยิ่งเหมาะครับ ที่บ้านผม ๆ จะมี 3 กระปุกครับ หน้าบ้าน 1 ในครัว 1 ในรถอีก1ไม่แนะนำให้ซื้อสำเร็จรูปครับ ปริมาณโซเดียมเยอะไป อีกอย่างส่วนใหญ่ใช้นำ้มันปาล์ม แนะนำให้คั่วไฟอ่อนๆพอสุกแล้วตั้งทิ้งไว้ให้ความร้อนที่ค้างอยู่ในเมล็ดทำงานต่อ ส่วนผม ผมใช้ฝาอบไฟฟ้าครับ ตั้งความร้อนที่ 200 เวลา5 นาที แล้วไปคลุกเกลืออบต่ออีก 5 นาที ถ้ายังไม่สุกดีก็ต่ออีก 5 นาทีครับ อย่าใช้ไมโครเวฟนะครับ ผมจะฆ่ามันในโอกาศหน้าครับ มาดูกันครับคุณพี่ว่าทำไมผมจึงแนะนำสิ่งนี้ครับ (ผมซื้อในแม็คโคร ตอนนี้ ครึ่งโล 209 บาทครับและทาน 5 เมล็ดหลังอาหารทุกมื้อ แต่เวลาหิวตอนขับรถ ก็หมดกระป๋องครับ)
ประโยชน์ของอัลมอนด์
1. อัลมอนด์ ประโยชน์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
2. ช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี
3. ประโยชน์ของอัลมอนด์ ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
4. ช่วยบำรุงระบบประสาท และช่วยเพิ่มสติปัญญาและสมาธิให้มากขึ้น
5. ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
6. ช่วยเสริมสร้างเซลล์และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ เส้นผม เล็บ ฯลฯ
7. การรับประทานอัลมอนด์เป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายได้ถึง 50%
8. ในเปลือกอัลมอนด์มี ฟลาโวนอยส์ (Flavonoids) ที่สามารถทำงานร่วมกับวิตามินอี ในการช่วยปกป้องผนังหลอดเลือด จึงทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ (งานวิจัยจาก Tufts University)
9. ช่วยบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
10. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ถึง 30-50% เพราะช่วยในการหลั่งอินซูลินหลังอาหาร ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดที่เพิ่มขึ้นถูกดูดซึมเก็บไว้ที่ตับและเนื้อเยื่ออื่นๆ จึงมีผลทำให้สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
11. อัลมอนด์ลดน้ําหนัก จากงานวิจัยหลายอย่างระบุว่า ผู้ที่รับประทานถั่วหรืออัลมอนด์เป็นประจำ จะมีน้ำหนักตัวลดลงโดยเฉลี่ยมากกว่าผู้ที่ไม่เคยรับประทานถั่ว โดยผู้ที่รับประทานถั่วอัลมอนด์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ร้อยละ 31% พบว่ามีน้ำหนักตัวที่ลดลง ถึงแม้ว่าถั่วอัลมอนด์จะมีไขมันที่สูงมากก็ตาม (บทความจาก WHFoods)
12. อัลมอนด์ลดความอ้วน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL)และลดระดับไขมันเลว (LDL) ในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยงานวิจัยจากสถาบันชั้นนำในอเมริกาและยุโรปพบว่าการรับประทานอัลมอนด์วันละ 1 หยิบมือจะช่วยลดระดับไขมันเลวได้ถึง 4.4% แต่ถ้ารับประทานวันละ 2 หยิบมือก็จะช่วยลดระดับไขมันเลวได้ 9.4%
13. สรรพคุณ อัลมอนด์ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี
14. สรรพคุณของอัลมอนด์ ช่วยป้องกันอาการท้องผูก เนื่องจากอัลมอนด์มีเส้นใยอาหารในปริมาณมาก มันจึงช่วยในการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี
15. อัลมอนด์ สรรพคุณช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่ว จากฐานข้อมูลจากNurses’ Health Study จากผู้หญิงกว่า 80,000 รายแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่รับประทานถั่วอย่างน้อย 1 ออนซ์ต่อสัปดาห์จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนิ่วได้ถึง 25%
16. อัลมอนด์ เป็นถั่วที่มีโปรตีนสูงมาก ซึ่งมีประโยชน์ในเรื่องของการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างความเจริญเติบโต ให้พลังงานแก่ร่างกาย ช่วยรักษาสมดุลของกรดด่างในร่างกาย ฯลฯ
17. เมล็ดอัลมอนด์ มีโพสแทสเซียมสูง ซึ่งเป็นตัวช่วยในการควบคุมความดันโลหิต
18. การรับประทานอัลมอนด์จะช่วยลดการกินจุบจิบ และการรับประทานทุกวันก็จะช่วยระงับความหิวได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นการไดเอทไปด้วยในตัวเลยทีเดียว
19. สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องน้ำหนักตัว คุณสามารถรับประทานถั่วอัลมอนด์แทนของหวานหรือขนมขบเคี้ยวในระหว่างวันได้อย่างสบายใจ นอกจากจะไม่ทำให้อ้วนแล้วยังได้คุณค่าจากธรรมชาติไปเต็มๆ และยังช่วยลดน้ำหนักไปในตัวด้วย
20. นอกจากนี้อัลมอนด์ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะถั่วชนิดอุดมไปด้วยกรดโฟลิกที่จำเป็นอย่างมากสำหรับเด็กทารกในครรภ์
21. เมล็ดอัลมอนด์สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่น อัลมอนด์อบเกลือ อัลมอนด์อบเนย คุกกี้อัลมอนด์ เค้กอัลมอนด์ น้ำมันอัลมอนด์ ฯลฯ
คุณค่าทางโภชนาการของอัลมอนด์ ต่อ 100 กรัม
• พลังงาน 576 กิโลแคลอรี่
• คาร์โบไฮเดรต 21.69 กรัม
• แป้ง 0.74 กรัม
• น้ำตาล 3.89 กรัม
• แล็กโทส 0.00 กรัม
• เส้นใย 12.2 กรัม
• ไขมัน 49.42 กรัม
• กรดไขมันอิ่มตัว 3.731 กรัม
• กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 30.889 กรัม
• กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 12.070 กรัม
• โปรตีน 21.22 กรัม
• ทริปโตเฟน 0.214 กรัม
• ทรีโอนีน 0.598 กรัม
• ไอโซลิวซีน 0.702 กรัม
• ลิวซีน 1.488 กรัม
• ไลซีน 0.580 กรัม
• เมทไธโอนีน 0.151 กรัม
• ซีสทีน 0.189 กรัม
• ฟีนิลอะลานีน 1.120 กรัม
• ไทโรซีน 0.452 กรัม
• วาลีน 0.817 กรัม
• อาร์จินีน 2.446 กรัม
• ฮีสติดีน 0.557 กรัม
• อะลานีน 1.027 กรัม
• กรดแอสพาร์ติก 2.911 กรัม
• กรดกลูตามิก 6.810 กรัม
• ไกลซีน 1.469 กรัม
• โพรลีน 1.032 กรัม
• ซีรีน 0.948 กรัม
• น้ำ 4.70 กรัม
• วิตามินเอ 1 หน่วยสากล
• เบต้าแคโรทีน 1 ไมโครกรัม (0%)
• ลูทีน และ ซีแซนทีน 1 ไมโครกรัม
• วิตามินบี1 0.211 มิลลิกรัม 18%
• วิตามินบี2 1.014 มิลลิกรัม 85%
• วิตามินบี3 3.385 มิลลิกรัม 23%
• วิตามินบี5 0.469 มิลลิกรัม 9%
• วิตามินบี6 0.143 มิลลิกรัม 11%
• วิตามินบี9 50 ไมโครกรัม 13%
• โคลีน 52.1 มิลลิกรัม 11%
• วิตามินอี 26.2 มิลลิกรัม 175%
• วิตามินเค 0.0 ไมโครกรัม 0%
• ธาตุแคลเซียม 264 มิลลิกรัม 26%
• ธาตุเหล็ก 3.72 มิลลิกรัม 29%
• ธาตุแมกนีเซียม 268 มิลลิกรัม 75%
• ธาตุแมงกานีส 2.285 มิลลิกรัม 109%
• ธาตุฟอสฟอรัส 484 มิลลิกรัม 69%
• ธาตุโพแทสเซียม 705 มิลลิกรัม 15%
• ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
• ธาตุสังกะสี 3.08 มิลลิกรัม 32%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
คำแนะนำ สำคัญ : แม้ว่าอัลมอนด์จะมีประโยชน์มากก็จริง แต่มันก็มีข้อเสียที่คุณควรจะรู้ไว้ เนื่องจากถั่วชนิดนี้มีของสารออกซาเลต (Oxalates) ซึ่งการได้รับเข้าไปในปริมาณอาจจะไม่เป็นผลดีกับร่างกายสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคไตหรือถุงน้ำดีควรจะหลีกเลี่ยงการรับประทานอัลมอนด์ไว้ก็จะดีที่สุดครับ
หวังว่าคงได้ประโยชน์กันทุกท่านทุกคนนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น