นั่งอ่านคำโฆษณาเกี่ยวกับ Colostrum (โคลอสตรุ้ม) อ่านแล้วนึกอยากกินมาก ๆ ..แหม่ มันดีสารพัดจริง ๆ
แต่... คุณไม่ได้พบเจอกับผู้ป่วยที่ผิวหนังหนาเหมือนวัว อารมณ์แปรปรวนแบบหาสาเหตุไม่เจอ หรือ หวังดีต่อบิดามารดา แล้วมะเร็งโตวันโตคืนกันหรอกนะ
ต่อไปนี้เป็นการนำเสนอสิ่งที่ผมอ่านมาและคิดว่าเป็นอีกด้านของเหรียญและไม่ประสงค์จะมุ่งร้ายต่อใคร ถ้าผมผิดต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ
ในปัจจุบันนี้ เป็นที่รู้กันทั่วไปแล้วว่านมวัวที่ไม่ได้เลี้ยงวัวแบบอินทรีย์เป็นหนึ่งในทางเลือกที่เลวร้ายที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้ในร้านค้าทั่วไปเนื่องจากฮอร์โมนส่วนเกิน ยาปฏิชีวนะ สเตียรอยด์ สารกำจัดศัตรูพืชและอะไรต่ออะไรที่ไม่ใครรู้ได้หมด อุตสาหกรรมอาหารพยายามที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและทำให้เราเชื่อว่านมวัวอินทรีย์ (และผลิตภัณฑ์ของบริษัท ) มาพร้อมกับความบริสุทธิ์และได้จากวัวที่กินหญ้าที่ปลอดภัยและมีความสุขในสนามหญ้าที่สะอาด อากาศดี น้ำใส หญ้าสดและอื่น ๆ โดยไม่คำนึงถึงว่า ความจริงส่วนใหญ่ของนมวัวก็ยังคงเป็นหนึ่งในสิ่งเลวร้ายที่สุดสำหรับสุขภาพด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะมาจากวัวชนิดใด เหตุผลหลักก็คือ...มันมีผลต่อฮอร์โมนของคุณ
วัวทุกตัวที่ผลิตน้ำนมมีการตั้งครรภ์ อวัยวะทุกส่วนขยาย กินอาหารเพิ่มถูกต้องนะ.. คงนึกภาพออกกันนะว่า นมของพวกมันมีฮอร์โมนเพิ่มขึ้นแน่ ๆ เมื่อพิจารณาถึงฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว นมวัวมีฮอร์โมนมากกว่า 60 ชนิดที่แตกต่างกันโดยไม่มีอะไรถูกเพิ่มลงไป เอาล่ะ!!ในขณะที่เราทุกคนต่างมีสภาวะของฮอร์โมนที่แตกต่างกัน มันไม่มีการวิจัยเชิงตรรกะอะไรเล๊ยย..ที่บอกว่าเราต้องเพิ่มฮอร์โมนจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นเข้าไป
ทำไมการไม่กินนมวัวจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับฮอร์โมนของคุณ:
วัวต้องตั้งครรภ์เกือบ 300 วันในหนึ่งปีและ Harvard Health รายงานว่า ยิ่งวัวตั้งครรภ์มากครั้งในช่วงหนึ่งปี วัวจะผลิตฮอร์โมนเพิ่มขึ้นผ่านน้ำนมทุกครั้ง วัวไม่ได้เกิดมาเพื่อจะตั้งครรภ์ 300 วันต่อปีหรอกนะและพวกมันต้องพัฒนาการติดเชื้อเนื่องจากความต้องการในการผลิตน้ำนมที่สูง ไม่พูดถึงว่าอาจจะเป็นโรคอื่นๆ และเชื้อแบคทีเรียเมื่อไม่ได้ใช้ยาปฏิชีวนะ(เช่นในการปฏิบัติที่ทำกันในเกษตรอินทรีย์)
เอาล่ะ ..ฮอร์โมนของวัวเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราหรือไม่
นี่เป็นสิ่งที่น่าใคร่ครวญกันนะครับ
1. ประเด็นเกี่ยวกับอินซูลิน
หนึ่งในเหตุผลหลักคือ นมเชื่อมโยงกับการเกิดสิวนั่นคือมันจะเพิ่มอินซูลินในร่างกาย นมทุกชนิดมี IG1 หรือปัจจัยการสร้างอินซูลิน มันจะยกระดับของอินซูลินของเราซึ่งเป็นสาเหตุให้น้ำตาลในเลือดแก่วงและนำไปสู่การเกิดสิว สิวเกิดจากอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน และนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่วัยรุ่นจำนวนมากต้องต่อสู้กับมันในวัยแรกรุ่น ทำไมเราไม่ใส่ใจต่อตัวเองในเรื่องทีจำเป็นมากกว่านี้ ไม่ว่านมชนิดใดที่คุณเลือกคุณกำลังปล่อยให้อินซูลินมากจนเกินไป ผมว่ามันน่าเศร้านะ ที่มันถูกนำมาโฆษณาว่าเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพต่อผู้ที่กำลังต้องการสร้างเสริมร่างกาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็ไม่ได้เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพและมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดปัญหาอินซูลินซึ่งนำไปสู่การกินมากเกินไป ความอยากน้ำตาลและการควบคุมระดับน้ำตาลที่ไม่ดี
2. อารมณ์แปรปรวน
นมยังมีฮอร์โมนที่สามารถนำไปสู่ภาวะอารมณ์แปรปรวน เอสโตรเจนและเทสโทสเทอโรนเป็นฮอร์โมนเพศของเราและเมื่อพวกมันเสียสมดุลเราจะได้สิ่งที่เรียกว่า “อารมณ์แปรปรวนเป็นผลตามมา” นมเพิ่มเอสโตรเจนส่วนเกินให้แก่ร่างกายเพราะมันมีเอสโตรเจนจากวัวเพศเมีย ในเวลาเดียวกันนมตามธรรมชาติมีคุณสมบัติของฮอร์โมนเพศชาย ดังนั้นร่างกายจะเพิ่มฮอร์โมนเพศชายและอาจทำให้เกิดการเสียสมดุลได้อย่างรวดเร็ว มันน่าตกใจมั๊ยล่ะครับ.. ฮอร์โมนเหล่านี้เราไม่จำเป็นต้องทำให้มันเสียสมดุล คุณว่าอย่างนั้นมั๊ยล่ะ ลองมาคิดด้วยวิธีนี้กันดีกว่า : นมที่คุณกินมีฮอร์โมนจากวัวเพศเมียและและเพศผู้จากวัวที่ถูกนำมาใช้ในการผสมพันธุ์ นั่นฟังดูเหมือนไม่ได้ดีสุขภาพหรืออร่อยเลย...ว่าป่ะ
สามารถอธิบายได้ว่าประมาณร้อยละ 80 ของเอสโตรเจนจากนมถูกบริโภคผ่านทางอาหารของมนุษย์พร้อมๆไปกับความจริงที่ว่ามันคือนมจากวัวที่ตั้งครรภ์ (ซึ่งเป็นวิธีการที่ผลิตนม) ซึ่งประกอบไปด้วยประมาณ 33 เท่าของเอสโตรเจนในวัวที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
อารมณ์แปรปรวน เกิดขึ้นเนื่องจากความผันผวนของฮอร์โมนที่รวดเร็วและไม่เพียงผู้หญิงเท่านั้นที่จะต้องทนทุกข์ทรมาน ผู้ชายก็สามารถเป็นได้ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่นมไม่ได้เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพสำหรับคนที่ต้องการที่จะมีสุขภาพดี มีความสุขและมีอารมณ์ที่เสถียรภาพมากขึ้น
3. ก่อให้เกิดมะเร็ง
มาตั้งโจทย์กัน : นมก่อให้เกิดโรคมะเร็งในทุกรูปแบบ จะอินทรีย์หรือไม่ก็ตาม
มาตรวจสอบกัน: การศึกษาของ Harvard Health แสดงให้เห็นว่า นมและผลิตภัณฑ์ชีสนำไปสู่โรคมะเร็งอัณฑะในผู้ชายอายุ 20-39 ปีและพบว่าส่งผลกระทบต่อเต้านม ลำไส้ใหญ่และมะเร็งต่อมลูกหมากอย่างหนักเช่นกัน แล้วก็ยังมีโปรตีนเคซีนที่พบในนมซึ่งเชื่อมโยงกับมะเร็ง
เอาล่ะ..!!! แม้ไม่มีฮอร์โมนหรือแม้กระทั่งแลคโตส เคซีนก็ยังเป็นโปรตีนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราและควรหลีกเลี่ยงเท่าที่จะทำได้
มาตรวจสอบกัน: การศึกษาของ Harvard Health แสดงให้เห็นว่า นมและผลิตภัณฑ์ชีสนำไปสู่โรคมะเร็งอัณฑะในผู้ชายอายุ 20-39 ปีและพบว่าส่งผลกระทบต่อเต้านม ลำไส้ใหญ่และมะเร็งต่อมลูกหมากอย่างหนักเช่นกัน แล้วก็ยังมีโปรตีนเคซีนที่พบในนมซึ่งเชื่อมโยงกับมะเร็ง
เอาล่ะ..!!! แม้ไม่มีฮอร์โมนหรือแม้กระทั่งแลคโตส เคซีนก็ยังเป็นโปรตีนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราและควรหลีกเลี่ยงเท่าที่จะทำได้
ดูแลฮอร์โมนของคุณ: หยุดนมซะ
มันน่าเศร้าที่อุตสาหกรรมอาหารทำให้คุณเชื่อว่าคุณต้องกินนมจึงจะมีสุขภาพดี แต่เรารู้ว่านั่นไม่ใช่ประเด็น เลิกเชื่อเรื่องโกหกเกี่ยวกับนมวัวแล้วหาอาหารที่อุดมด้วยไปแคลเซียมอื่น ๆ แทนเอาก็ได้ หาสิ่งที่ไม่มีฮอร์โมนที่น่ากลัวเหล่านี้ นะ นะ
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น