เก๋ากี้ (โกจิเบอร์รี่) : สารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ

30 Sep 2016

โกจิเบอร์รี่มีการใช้ในการแพทย์แผนจีนมานานกว่า 2,000 ปี บางตำนานรายงานว่าโกจิเบอร์รี่ถูกกินโดยพระสงฆ์ในเทือกเขาหิมาลัยเมื่อพันปีก่อนโดยการต้มในน้ำร้อนเพื่อที่จะช่วยในการทำสมาธิและหวังผลทางสุขภาพ อายุที่ยืนยาว พลังงานและความแข็งแกร่ง

!!! แคลอรี่ต่ำ ไร้ไขมัน เป็นแหล่งที่ดีของเส้นใยและต้านอนุมูลอิสระสูง ประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่รวมถึง :ความสามารถที่จะช่วยให้คุณต่อสู้กับโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการกับน้ำหนักของคุณและการย่อยอาหารที่ดีขึ้น โดยปกติมักจะรับประทานสด แห้งหรือในรูปแบบของเหลวหรือผงโกจิเบอร์รี่ ซึ่งมีความหลากหลายของสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุจนได้ชื่อว่า " superfood" โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

ในความเป็นจริงตามการศึกษาที่เผยแพร่โดย Journal of Alternative and Complementary Medicine ประโยชน์โกจิเบอร์รี่รวมถึง ...

เพิ่มระดับพลังงาน ผลที่ยอดเยี่ยมด้านการกีฬา คุณภาพของการนอนหลับ ความง่ายในการกระตุ้นร่างกาย ความสามารถในการมุ่งเน้นไปที่กิจกรรม ลดความรุนแรงทางจิตใจ เพิ่มความสงบ ความรู้สึกด้านสุขภาพความพึงพอใจ ความสุขและลดลงอย่างมีนัยสำคัญในส่วนของความเมื่อยล้าและความเครียด (1)

จะมีอะไรอีกไหมที่ผลเบอร์รี่นี้ไม่สามารถทำได้ !!

นี่คือบางสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์ถึงผลประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่
-ความสามารถในการรักษาโรคเบาหวานตามธรรมชาติ ความดันโลหิตสูง โรคติดเชื้อและโรคทั่วไปเช่นหวัดหรือเป็นไข้ : ในอดีตได้ถูกนำมาใช้ในการต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลหรือความผิดปกติทางอารมณ์อื่น ๆ เก๋ากี้เป็นแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระที่รู้จักกันว่าเบต้าแคโรทีน รวมทั้งสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยปกป้องผิวและสุขภาพดวงตา ควบคุมระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ให้สมดุลและพวกเขายังแสดงให้เห็นว่าป้องกันโรคหัวใจ

...ข้อเท็จจริงของโกจิเบอร์รี่ด้านโภชนาการ...

¼ถ้วยของโกจิเบอร์รี่อบแห้งมี: (2)
100 แคลอรี่
ไขมัน 0 กรัม
ไฟเบอร์ 3 กรัม
น้ำตาล 13 กรัม
โปรตีน 4 กรัม
วิตามิน A ร้อยละ 140 DV
วิตามินซี ร้อยละ 35-163 DV
100 DV วิตามินบี 2
ร้อยละ 91 DV ซีลีเนียม
ร้อยละ 24 DV โพแทสเซียม
ร้อยละ 10-100 DV เหล็ก
ร้อยละ 4-10 DV แคลเซียม
กรดอะมิโน 18 ตัว(11 ตัวเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็น)
และ 5 แหล่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งที่มาของสุขภาพดีรวมทั้งกรดอัลฟาไลโนเลนิกและกรดไลโนเลอิก

สารจากพืชรวมทั้งเบต้าแคโรทีน ซีแซนทีน ไลโคปีน cryptoxanthin ลูทีนและ polysaccharides

!! เมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ที่นิยมอื่น ๆ

อ้างถึง USDA โกจิเบอร์รี่แห้ง ¼ ถ้วยมีค่าความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ(ORAC) 3,290 โดยเปรียบเทียบกับแอ็ปเปิ้ลซึ่งมีค่า ORAC ที่ 2,568; ลูกเกด 3,406; บลูเบอร์รี่ 4,633 และเมล็ดทับทิม 4,479 คะแนน (3) ทั้งหมดนี้คือแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ แต่สิ่งที่ทำให้โกจิเบอร์รี่ทิ้งห่างคือ..กรดอะมิโน (โปรตีน) - กรดไขมันและสารต้านอนุมูลอิสระที่เฉพาะเจาะจง

!!มันยากสำหรับผลไม้ที่จะให้กรดอะมิโนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จำเป็นถึง 11 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้

อีกประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่ที่จะต้องพิจารณาคือความสะดวกในการพกพา
และเมื่อคุณเปรียบเทียบโกจิเบอร์รี่กับส้มเขียวหวานด้วยน้ำหนักที่เท่ากัน-วิตามิน C ในโกจิเบอร์รี่มีมากกว่าถึง 500 เท่า (4)
....................................................................
8 ประโยชน์ที่นำโด่งของโกจิเบอร์รี่

1. มีระดับที่สูงของสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันร่างกายจากการอักเสบซึ่งก่อความเสียหายที่รุนแรง
หนึ่งในผลประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่ที่น่าแปลกใจที่คุณอาจไม่ทราบเกี่ยวกับมันก็คือมีประมาณสี่กรัมของโปรตีนต่อ1/4 ถ้วยและกรดอะมิโนที่แตกต่างกัน 18 ชนิด 20 แร่ธาตุอื่น ๆ รวมทั้งสังกะสี เหล็ก ฟอสฟอรัสและ riboflavin (วิตามินบี 2)

!! กรัมต่อกรัม- โกจิเบอร์รี่ให้เบต้าแคโรทีมากกว่าแครอทและธาตุเหล็กมากกว่าถั่วเหลืองและผักโขมซึ่งทำให้พวกเขาเป็นแหล่งที่ดีที่จะช่วยป้องกันการขาดธาตุเหล็ก!

2. ปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและต่อสู้กับโรคมะเร็ง
และป้องกันโรคทั่วไปเช่นหวัดและโรคเกี่ยวกับระบบประสาท

Carotenoids เช่น ซีแซนทีนและสารตั้งต้นของวิตามินซีที่มีการวิจัยอย่างกว้างขวางมากที่สุด ระดับสูงของสารเหล่านี้ทำให้ชื่อเสียงของโกจิเบอร์รี่ถูกนำมาใช้ในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็งและต่อสู้กับการเจริญเติบโตของเนื้องอก ช่วยลดระดับของการอักเสบจากไซโตไคน์และการล้างพิษจากสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้

ประโยชน์โกจิเบอร์รี่ยังขยายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย - polysaccharides และสารประกอบ glycoconjugate ของพวกเขาที่ส่งเสริมภูมิคุ้มกันที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่ไม่ซ้ำกัน การป้องกันมะเร็งและต้านอนุมูลอิสระในสมอง ตับ อวัยวะสืบพันธุ์และระบบทางเดินอาหาร

!!คุณรู้ไหมว่าคุณสามารถช่วยการต่อสู้กับโรคมะเร็งผิวหนังด้วยอาหาร..โกจิเบอร์รี่มีการรายงานว่ามีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอยและแสดงกิจกรรมป้องกันมะเร็งหลากหลายชนิดของเซลล์มะเร็งผิวหนังโดยการยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและการกระตุ้นให้เกิดการตายของเซลล์ (5)

การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Nutrition and Cancer ในปี 2009 :

กลุ่มนักวิจัยต้องการที่จะดูว่าโกจิเบอร์รี่มีผลกระทบต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือไม่และหากโกจิเบอร์รี่มี มันยังอาจมีบทบาทสำคัญในการหยุดการแพร่กระจายของมะเร็งและเนื้องอก
ยกตัวอย่างเช่น estrogen receptor modulators บางตัวได้ถูกนำมาใช้ในการรักษามะเร็งเต้านม; แต่แน่นอนมันมีผลข้างเคียง ดังนั้นนักวิจัยจึงต้มโกจิเบอร์รี่ในน้ำและใช้สารสกัดนี้ในเซลล์ MCF-7 : เซลล์มะเร็งของมนุษย์ที่มักจะใช้ estrogen estradiol ในการเติบโต นักวิจัยพบว่าสารสกัดจากโกจิเบอร์รี่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เมื่อมีการปรากฏของ estradiol ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณและเวลา

3. ส่งเสริมสุขภาพผิว

เช่นเดียวกับเบอร์รี่อื่น ๆ โกจิเบอร์รี่เต็มไปด้วยเบต้าแคโรทีนซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผิวของคุณมีสุขภาพที่ดีและยังทำหน้าที่เหมือนการรักษาโรคมะเร็งผิวตามธรรมชาติและโรคผิวหนังอื่น ๆ (6) (http://www.biohackerlabs.com/…/effects-goji-berries-on-hor…/)

4. ปกป้องสุขภาพดวงตา

ความสามารถในการปกป้องดวงตาจากโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุเช่นจอประสาทตาเสื่อมซึ่งเป็นสาเหตุของตาบอดในผู้สูงอายุ โกจิเบอร์รี่มีการรักษาตามธรรมชาติสำหรับจอประสาทตาเสื่อมและเป็นประโยชน์สำหรับการมองเห็นเพราะระดับที่สูงของสารต้านอนุมูลอิสระ (โดยเฉพาะ zeaxanthin) ซึ่งสามารถช่วยหยุดความเสียหายที่เกิดจากการสัมผัสกับแสงยูวี อนุมูลอิสระและรูปแบบอื่น ๆ ของความเครียดที่เกิดจากการออกซิเดชัน

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน American Academy of Optometry’s Optometry & Vision Science journal พบว่าการดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่ทุกวันเป็นเวลา 90 วันเพิ่มซีแซนทีนพลาสม่าและระดับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างมีนัยสำคัญซึ่งปกป้องดวงตาจาก hypopigmentation และการสะสมของสารความเครียดจากการออกซิเดชันที่สามารถสร้างความเสียหายได้(7) การศึกษาอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าโกจิเบอร์รี่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของดวงตาโดยการปกป้องจอประสาทตาจากเซลล์ปมประสาทและสารต้านอนุมูลอิสระและมันคือการรักษาตามธรรมชาติสำหรับโรคต้อหิน (8)

5. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่ยังช่วยในการควบคุมการปล่อยน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดซึ่งจะช่วยป้องกัน spikes และ dips เนื่องจากปัญหาความสมดุลของระดับน้ำตาลกลูโคส

6. ล้างพิษตับ

โกจิเบอร์รี่เชื่อว่าจะมีการป้องกันตับและถูกคิดว่าจะเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ดีที่สุดในการส่งเสริมสุขภาพของตับและไต

อ้างถึง TCM: เนื่องจากโกจิเบอร์รี่มีประโยชน์ต่อตับและไตซึ่งจะเรียกคืนพลัง ความแข็งแรงและความเป็นอยู่ที่ดีและนี่ก็เป็นการรักษาตามธรรมชาติต่อนิ่วในกรวยไตเช่นเดียวกับการทำความสะอาดเลือด

7. เก็บพลังงานและอารมณ์ของคุณ

จากการศึกษาในวารสาร Journal of Alternative and Complimentary Medicine : การดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่เป็นประจำสามารถช่วยเพิ่มระดับพลังงาน อารมณ์และปรับปรุงสุขภาพของทางเดินอาหาร (9)

8. เพิ่มการขยายเผ่าพันธุ์

โกจิเบอร์รี่เชื่อว่าจะเพิ่มจำนวนอสุจิและความมีชีวิตชีวาของมัน มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงผลประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่เพิ่มเติมรวมถึงการรักษาภาวะมีบุตรยากในหญิงและผู้ป่วยที่มีรังไข่ล้มเหลวก่อนวัยอันควรและไม่สามารถที่จะมีบุตรได้ตามปกติ ผลประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่รวมถึงความสามารถในการเพิ่มอารมณ์ลดความเครียดและต่อสู้กับการอักเสบ (10)

ผลลัพธ์ที่ได้จากการศึกษาที่จัดทำโดย College of Public Health at Wuhan University ในประเทศจีนแสดงให้เห็นว่า โกจิเบอร์รี่ป้องกันความเสียหายของเนื้อเยื่ออัณฑะที่เกิดจากการได้รับความร้อน เพิ่มฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ส่งเสริมระบบสืบพันธุ์ เพิ่มระดับฮอร์โมนเพศและการป้องกันความเสียหายจากการออกซิเดชันต่อดีเอ็นเอในเซลล์อัณฑะ การค้นพบนี้เพิ่มชื่อเสียงของโกจิเบอร์รี่สำหรับการต่อสู้กับภาวะมีบุตรยาก (11)

!! คำเตือน ++

-คนที่ใช้ยาต้านเกร็ดเลือดหรือยาเบาหวานอาจจะมีปฏิกิริยาในเชิงลบต่อการรับประทานโกจิเบอร์รี่จำนวนมาก
-แน่นอนว่า!! โกจิเบอร์รี่เป็นกรดจึงไม่เหมาะกับผู้มีโรคกระเพาะอาหาร ลำไส้แปรปรวนหรือโรคทางระบบอาหารอื่น ๆ
- นักกีฬาหญิง : ที่ต้องตรวจฮอร์โมนเพศชาย - แน่นอนว่าคุณจะเก่งกว่าหญิงทั่วไป แต่เมื่อต้องตรวจปัสสาวะ – เหรียญที่คุณได้มาจะถูกเรียกคืนอย่างแน่นอนทีสุด
.........................................................................................
แต่ที่แน่ ๆ นะ ..ผมกินทุกวันเพราะต้องรักษาเลือดที่ดีไว้เผื่อแผ่แก่คนที่ได้รับทุกข์ทรมานจากการขาดเลือดที่ดี

ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

สวัสดี