ก็เพราะ แป้งและน้ำตาลเป็นมิตรกับความแก่ ความชราน่ะสิ
ถ้าเรา ๆ ท่าน ๆ ได้อ่านข้อมูลต่อไปนี้ ผมว่า ท่านก็น่าจะเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมปฏิบัติอยู่นะ และพวกฝรั่งเองเขาก็มีปัญหาเหมือนเรานี่แหละครับ ในอดีตเขาก็กินขนมปังที่ทำจากข้าวสาลีไม่ขัดสี ที่เรียกว่าโฮลวีท ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วย แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก เลซิทิน โปแตสเซียม วิตามินอี และไฟเบอร์ ที่มาจากธัญพืชที่มีประโยชน์ เช่นเดียวกับข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือของไทยนี่เอง ต่อมาเมื่อมีการนำวัตถุดิบไปขัดจนขาว ก็เริ่มป่วยกันทั้งฝรั่งทั้งไทย ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ หรือแม้กระทั่งมะเร็ง ก็ล้วนได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นโรคพฤติกรรม ที่เกิดจากการกินทั้งน้านแหละครับ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับคาร์โบไฮเดรตกันก่อน…
คาร์โบไฮเดรตมีอยู่ในอาหารเกือบทุกชนิด เเต่จะแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ นะ
คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว (พวกแป้งขัดขาว ข้าวขาว ขนมปังขาว น้ำตาล หรือ ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ผ่านการแปรรูป)
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (แป้งไม่ขัดขาว ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังธัญพืช(โฮลวีต) เมล็ดพืช ธัญพืชเผือก มัน ฯลฯ)
ความแตกต่างน่ะรึ!!!!ตามมา
คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว
จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ง่ายและเกือบจะทันทีที่ทานเข้าไป เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างฉับพลัน ทำให้รู้สึกมีพลังงานขึ้นทันที
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
เมื่อกินเข้าไปแล้ว จะค่อยๆถูกย่อยเพราะในแป้งไม่ขัดขาวยังมีคุณค่าอย่างอื่นอีกเช่นวิตามิน แร่ธาตุบางชนิด และเส้นใยอาหาร ร่างกายจะค่อยๆดูดซึมสารอาหารจากแป้งไม่ขัดขาว กระบวนการเปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาลจึงช้ากว่าแป้งขัดขาว ทำให้ร่างกายได้พลังงานต่อเนื่องยาวนานและระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มคงที่สม่ำเสมอทำให้มีพลังงานต่อเนื่อง ไม่หิวบ่อย และเส้นใยอาหารยังช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหารและขับถ่าย และยังได้รับวิตามินแร่ธาตุอีกด้วย
แป้งขัดขาวทำปฏิกิริยาอย่างไรในร่างกายเรา !!!! ตามมา
เวลาที่เรากินข้าวขาวหรือกินของหวานเข้าไป ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นกลูโคสมาเลี้ยงสมองได้เร็วมากภายใน 3นาทีและสดชื่นได้เร็วมาก ระดับน้ำตาลจะขึ้นปรู๊ดปร๊าดเลย พอน้ำตาลในเลือดมาก สมองจะกระตุ้นให้เร่งขับอินซูลินออกมา เพื่อเผาผลาญน้ำตาลที่กินเข้าไปให้เป็นพลังงาน วิตามินที่จะมาช่วยเผาผลาญ คือ วิตามินบีคอมเพล็กซ์ แต่ข้าวขาวหรือแป้งขัดขาวที่เรากินเข้าไปไม่มีวิตามินบีหรอกเพราะขัดออกหมดเสียแล้ว ฉะนั้นต้องดึงวิตามินในร่างกายออกมาเผาผลาญ ร่างกายเราก็ขาดวิตามินบี ทำให้ระบบประสาทเกิดเหน็บชา และตับอ่อนทำงานหนักที่สุด เพราะเมื่อกลูโคสขึ้น สมองไฮโปทาลามัสส่วนนี้จะสั่งให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินออกมาเพื่อเผาผลาญน้ำตาลให้ลดลง และมันผลิตออกมามากซะด้วยซิ แป๊บเดียวน้ำตาลลดฮวบเลย และตัวตับอ่อนก็ค่อย ๆพังไปเรื่อย ๆ จนผู้ป่วยเบาหวานเต็มบ้านเต็มเมืองไงล่ะ
เพราะฉะนั้นพวกกินข้าวขาวหรือของหวานจะหิวไม่หยุด ยิ่งกินน้ำตาลมากเท่าไหร่ ตับอ่อนยิ่งทำงานหนัก ตอนน้ำตาลลดนี่จะอารมณ์จะไม่ดี หงุดหงิด ก็ไปหากาแฟกันซิ เห็นเค้าบอกกันว่ากาแฟทำให้อารมณ์ดี เลยหนักเข้าไปใหญ่ แล้วพวกคนอ้วนที่เป็นเบาหวานนี่ต้องระวังนะจะดุมาก ตอนกินจะอารมณ์ดี พอถูกเผาผลาญหมด แป๊บเดียวจะอารมณ์เสียได้ไม่ยากเลย
และทั้งนี้การกินแป้งมากเกินไปจะทำให้ปริมาณอินซูลินสูงขึ้น และอินซูลินมีหน้าที่ลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างที่ว่ามาแต่ต้น แต่ถ้ามีมากเกินไปจะทำให้ร่างกายแก่และโทรมเร็ว อินซูลินยังไปทำให้แป้งเปลี่ยนเป็นไขมันทำให้มีไขมันและน้ำตาลในเลือดสูงอีกด้วย
แล้วที่เกี่ยวกับสายตาล่ะ !!! ตามมา...
พวกแป้งขัดขาวเหล่านี้มีส่วนทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นของสายตาถูกทำลาย ทั้งนี้ เนื่องจากแป้งขัดขาวหรืออาหารหวานๆจะสลายตัวกลายเป็นน้ำตาลกลูโคสได้รวดเร็ว จึงกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการหลั่งอินซูลินออกมามาก ส่งผลให้น้ำตาลกลูโคสถูกเปลี่ยนเป็นสารซอลบิทอล ซึ่งเมื่อร่างกายสะสมสารนี้ไว้มากเกินไปอาจทำให้เกิดการเสื่อมของจอรับภาพและเส้นประสาทตา
และถ้าผมจำต้องทานน่ะ รึ ถ้าเป็น ขนมจีน ผมจะตักมาราว สามช้อนโต๊ะ และ นอกนั้นก็ใส่ผักสดเข้าไปเหมือนทานสลัดผักราดน้ำแกง หรือถ้าเป็นก๊วยเตี๋ยว ผมจะสั่งพิเศษ บะหมี่ครึ่งก้อน และ ผักลวกให้เท่ากับที่ทำให้คนอื่น 5 ชาม อย่างนี้ก็พอได้ครับ
เอาล่ะครับ ลองคิดกันเอาเองนะ ผมก็แค่หาข้อมูลซึ่งเป็นข้อเท็จจริงมาฝากเพื่อน ๆ ส่วนที่เหลือ เป็นของท่านเอง
สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น