Enzymology เป็นวิชาหนึ่งที่เป็นสาขาของ ชีวเคมี ที่ว่าด้วย เอ็นไซม์ ซึ่งได้เปลี่ยน ประโยคที่ว่า You are what you eat.เป็น You are what you absorbed.ซึ่งคนที่เรียนสาขานี้ ในอีก 20 ปีข้างหน้า จะเป็นผู้กำหนดสุขภาพของคนในประเทศนี้แทนหมอ เนื่องจาก วิธีการรักษาผู้ป่วยจะเปลี่ยนไปราวอีก20 ปี นี่ของเมืองไทยนะจากการคาดเดาของตัวผมเอง แต่ถ้าระบบสาธารณะสุขไทยเปิดกว้างอย่างประเทศที่เขารักและใส่ใจต่อสุขภาพของพลเมืองโดยปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อนแล้ว อาจเร็วกว่านี้ครับเพราะตอนนี้ ญี่ปุ่น เปลี่ยนแล้ว ราว 50% ประเทศทางตะวันตก ก็ทยอยสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความคิดที่ว่า สารเคมีทุกชนิดเป็น อันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ และร่างกายต้องการเพียงสารอาหารเพื่อให้มันทำงานอย่างสมบูรณ์ ส่วนการแพทย์ที่เป็นอยู่จะทำหน้าที่ในการต่อสู้กับเชื้อโรคที่มีการพัฒนาตลอดเวลาเช่นกัน ถ้าท่านได้คุยกับผู้ป่วยอยู่บ้างจะเห็นว่า ยา ไม่ทำให้ผู้ป่วยทีเป็นโรคอันไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคทุเลาเบาบางลงสักเท่าไหร่ อาทิ เบาหวาน ความดัน ไขมัน เป็นต้น แต่กลับส่งผลกระทบต่อการทำงานในระบบอื่นๆของร่างกายเพิ่มขึ้นจากการตกค้างของยาในไต เป็นต้นและสิ่งหนึ่งที่ต้องศึกษาเป็นอันดับแรกของทั้งนักเรียนแพทย์และ Enzymology คือ ระบบร่างกาย และระบบร่างกาย ที่ต้องเรียนก่อนใคร คือ ระบบการย่อย( Digestion) หลังจากได้ทำการศึกษามานาน จึงอยากพาแฟนรายการ “ หมอนอกกะลา”มารู้จักกับ ระบบการย่อย( Digestion) ซึ่งมีผู้คนเป็นจำนวนมากยังเข้าใจผิดอยู่ว่า ถ้าถ่ายท้องดี ก็แสดงว่าการย่อยดี มันคนละระบบครับ อันนั้นมันระบบขับถ่ายครับ เอาเป็นว่า ถ้า ระบบการย่อย( Digestion) ดี ตั้งแต่เริ่ม ความเจ็บไข้ได้ป่วย ของคนทั่วโลก จะเบาบางลง เมื่อคุณ ไม่ใส่สิ่งที่ไม่เหมาะสมให้กับร่างกาย
การย่อยอาหารของคน
การย่อยอาหาร (Digestion) คือ กระบวนการแปรสภาพสารอาหารโมเลกุลใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อการดูดซึมเข้าสู่เซลล์
อวัยวะช่วยย่อยอาหาร
การย่อยอาหารในคนนอกจากมีอวัยวะที่เป็นทางเดินอาหารแล้ว ยังมีอวัยวะที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยย่อยอาหารโดยเฉพาะในการย่อยอาหารในลำไส้เล็ก เนื่องจากอวัยวะต่างๆที่ได้กล่าวมานั้นไม่สามารถที่จะย่อยสารอาหารบางชนิดได้ทำให้ต้องมีอวัยวะช่วยย่อยอาหาร ในการย่อยสารอาหารบางชนิดได้แก่ตับและตับอ่อน
ตับ เป็นอวัยวะซึ่งมีต่อมที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย อยู่ช่องท้องใต้กระบังลม ทำหน้าที่สร้างน้ำดี แล้วนำไปเก็บสะสมไว้ในถุงน้ำดี
1. ตับมีหน้าที่โดยสรุปดังนี้
1. สร้างน้ำดีในการช่วยให้ไขมันแตกตัว ทำให้น้ำย่อยไขมันสามารถย่อยไขมันได้ดีในลำไส้เล็ก
2. ทำลายเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ
3. สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงในระยะเอ็มบริโอ
4. ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
5. สลายกรดอะมิโนให้เป็นยูเรีย
6. ศูนย์กลางเมแทบอลิซึมอาหารที่ให้พลังงานได้
7. สะสมไกลโคเจนซึ่งเป็นน้ำตาลจากเลือดสะสมไว้ในตับ
8. ทำลายจุลินทรีย์โดยมี kupffer’ s cell ทำหน้าที่ทำลายจุลินทรีย์
9. คุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้เกิน 0.1 %
2. ทำลายเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ
3. สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงในระยะเอ็มบริโอ
4. ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
5. สลายกรดอะมิโนให้เป็นยูเรีย
6. ศูนย์กลางเมแทบอลิซึมอาหารที่ให้พลังงานได้
7. สะสมไกลโคเจนซึ่งเป็นน้ำตาลจากเลือดสะสมไว้ในตับ
8. ทำลายจุลินทรีย์โดยมี kupffer’ s cell ทำหน้าที่ทำลายจุลินทรีย์
9. คุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้เกิน 0.1 %
2. ตับอ่อน ช่วงแรกเรียกว่า ท่อแพนครีเอติค ( pancreatic duct) ช่วงหลังเรียกว่าท่อจากตับอ่อน ( hepato pancreaticduct) หน้าที่ของตับอ่อนสรุปได้ดังนี้
1. มีต่อมสร้างน้ำย่อยหลายชนิดส่งให้ลำไส้เล็กทำหน้าที่ย่อย แป้ง โปรตีนและไขมัน
2. มีต่อมไร้ท่อควบคุมน้ำตาลในเลือด
3. สร้างสารที่เป็นด่างกระตุ้นให้น้ำย่อยในลำไส้เล็กทำงานได้ดี โดยเฉพาะเอนไซม์
2. มีต่อมไร้ท่อควบคุมน้ำตาลในเลือด
3. สร้างสารที่เป็นด่างกระตุ้นให้น้ำย่อยในลำไส้เล็กทำงานได้ดี โดยเฉพาะเอนไซม์
การย่อยอาหารมี 2 วิธี คือ
1. การบดให้ละเอียด (Mechanical digestion) โดยใช้ฟันบดเคี้ยวหรือการเคลื่อนที่ของกล้ามเนื้อหลอดอาหาร กระเพาะอาหารและลำไส้เป็นจังหวะเรียกว่าเพอริสทัลซีส (Peristalsis)ติดต่อกันเป็นลูกคลื่น เรียกว่าเพอริสทัลซีส
2. การให้เอนไซม์ย่อยอาหาร (Digestive enzyme) เป็นกระบวนการทางเคมี (Chemical digestion)
เป็นการย่อยที่ต้องใช้เอนไซม์จากต่อมต่าง ๆ ทำหน้าที่ในการย่อยอาหาร เป็นชนิดที่ทำปฏิกิริยาร่วมกับน้ำ จึงเรียกเอนไซม์พวกนี้ว่าไฮโดรเลส (Hydrolase)
เป็นการย่อยที่ต้องใช้เอนไซม์จากต่อมต่าง ๆ ทำหน้าที่ในการย่อยอาหาร เป็นชนิดที่ทำปฏิกิริยาร่วมกับน้ำ จึงเรียกเอนไซม์พวกนี้ว่าไฮโดรเลส (Hydrolase)
เอนไซม์ (Enzyme) คือสารอินทรีย์พวกโปรตีน ซึ่งสิ่งมีชีวิตสร้างขึ้น เพื่อทำหน้าที่กระตุ้นปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นภายในสิ่งมีชีวิต แบ่งออกเป็น 3 ชนิดดังนี้
1. Carbohydase เอนไซม์ที่ย่อยสารอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต
.2. Protease เอนไซม์ที่ย่อยสารอาหารโปรตีนโดยเอนไซม์พวกProtease จนได้กรดอะมิโน
3. Lipase เอนไซม์ที่ย่อยสารอาหารพวกไขมัน
1. Carbohydase เอนไซม์ที่ย่อยสารอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต
.2. Protease เอนไซม์ที่ย่อยสารอาหารโปรตีนโดยเอนไซม์พวกProtease จนได้กรดอะมิโน
3. Lipase เอนไซม์ที่ย่อยสารอาหารพวกไขมัน
แค่นี้ก่อนนะครับ ประเดี๋ยวจะเบื่อกันเสียก่อน แต่ถ้าใครสนใจ ก็ค้นคว้าเอาได้ครับ วันนี้ ขออำลาเพียงเท่านี้ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น