9 Apr 2017
ตอน ..P D B (Part 1)
โรคแพนิค (Panic) โรคซึมเศร้า (Depression) และโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้วหรือโรคไบโพลาร์ (Bipolar disorder)
“ถ้าคุณมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องกายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา วิธีการทางการแพทย์ในการรักษาโรคเหล่านี้ดูจะเป็นเรื่องที่... งี่เง่า...ที่สุด” จากหนังสือ Depression : The mechanical cause โดย Dr.John Bergman
โรคซึมเศร้า คือภาวะที่เกิดในระยะสั้นภายในระยะ 6 เดือนและอาจเกิดแค่ครั้งเดียวและที่สำคัญไปกว่านั้นคือร่างกายสามารถแก้ไขภาวะนี้ได้เองเมื่อได้รับสารอาหารที่ถูกต้องและมันจะไม่กลับมาอีกเลยแต่..เมื่อคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้และได้รับยาจิตเวชมาเพื่อใช้เพราะคำว่า “รักษา” เป็นเวลา 5 ปีขึ้นไป..ในเวลาต่อมาคุณจะได้รับคำวินิจฉัยใหม่จากคนที่คุณเรียกว่า..แพทย์..”ตอนนี้คุณเป็นไบโพล่าและมีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนยา” จริงหรือไม่ !!!!
เอาล่ะ..มาดูตัวยาที่การแพทย์ใช้กันจะดีกว่าไหม !!
Prozac เป็นหนึ่งในยาต้านโรคซึมเศร้าที่ใช้กันอย่างบ้าคลั่งโดยที่ไม่ทราบแน่ชัดว่า Prozac มีกลไกการทำงานอย่างไร และวงการแพทย์ในบ้านเมืองนี้ก็อ้างเพียง “ได้รับการยืนยันประสิทธิภาพจากคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐในปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530)”
ปัญหาก็คือ..มีใครกี่คนที่ได้อ่านใบแทรกในกล่องยาไม่ว่าจะเป็น Prozac,Depakote,Wellbutrin,Elavil และยาจิตเวชทั้งหลายแหล่..
ในใบกำกับกล่าวว่าอย่างไร..“ This mechanism of Prozac is unknown.” แปลว่า..กลไกการทำงานของยานี้ไม่เป็นที่ทราบได้..แล้วมันหมายความว่าอย่างไร..มันก็หมายความว่าแพทย์คนที่จ่ายยาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันทำงานอย่างไร..ใช่หรือไม่ !! แล้วคุณก็ยังเรียกวิธีการนี้ว่า “ การรักษา” มันใช่แน่หรือ..แล้วแพทย์ของคุณเคยบอกสิ่งนี้หรือไม่..พวกเขามักจะใช้คำว่า “ ผลข้างเคียง” แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ผลข้างเคียงแต่มันคือ..ผลโดยตรงจากการใช้ยา
- ทุกส่วนของร่างกาย : รู้สึกหนาว พยายามฆ่าตัวตาย ปวดท้องเฉียบพลัน ผิวแพ้แสงแดด
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด : ใจสั่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ระบบการย่อย : กลืนลำบาก โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคลำไส้อักเสบ
ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร แผลในกระเพาะอาหาร ถ่ายเป็นเลือด หลอดอาหารอักเสบ กรดไหลย้อน อาเจียนเป็นเลือด
- ระบบน้ำเหลือง : เลือดออกใต้ผิวหนัง เลือดออกเป็นจุด เส้นเลือดฝอยอักเสบ
- ระบบประสาท : อารมณ์แปรปรวน มีความรู้สึกต้องการจะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา มีการเคลื่อนไหวที่ไม่ประสานกัน เคลิบเคลิ้ม มีภาวะกล้ามเนื้อตึงตัวมาก สมรรถภาพทางเพศลดลง กล้ามเนื้อกระตุกรัว หวาดระแวง หลงผิด
- ระบบทางเดินหายใจ : หลอดลมตีบ
- ผิวหนัง : เป็นจ้ำเลือด
- ด้านการสัมผัส : สูญเสียการรับรส ม่านตาขยาย
นี่เป็นผลบางส่วนจากยาที่มักจ่ายให้ผู้ป่วยในโรค แพนิค ซึมเศร้าและไบโพล่า
.........................................................................
แพทย์ในทุกวันนี้มักไม่คำนึงถึงความเป็นพิษไม่ว่าจะมาจากยา โลหะหนัก สารปรุงแต่งรสชาติที่ส่งผลกระทบต่อการสร้างเซอโรโทนิน (Serotonin) ตามธรรมชาติของร่างกาย ... เรามาดูกันว่าร่างกายสร้างมันอย่างไรและอะไรทำให้ร่างกายพร่องเซอโรโทนิน
!! เมื่อคุณขาดเซอโรโทนิน ..มันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร !!
-อารมณ์
-ความจำ
-ความสามารถในการเรียนรู้
-ความอยากอาหาร
-ความตื่นตัว
-ความก้าวร้าว
-กระแสประสาท
-ความต้องการทางเพศ
-การนอนหลับ
-การแสดงออกทางสังคม
-หัวใจ
-กล้ามเนื้อ
-ระบบฮอร์โมน
เนื่องจากร้อยละ 90 ของเซอโรโทนินสร้างขึ้นในลำไส้นั่นหมายถึงปัญหาของระบบทางเดินอาหารเป็นต้นเหตุให้เกิดรายการที่กล่าวไว้ด้านบนนี้ ในทางกลับกันมันหมายถึง โรคอัลไซเมอร์ โรคจิตเสื่อม อารมณ์แปรปรวน สมาธิสั้น ซึมเศร้า แพนิค วิตกกังวล การตื่นตัว สมรรพภาพทางเพศเสื่อม หมดอารมณ์ทางเพศ การควบคุมกระแสประสาท ก็น่าจะมาจากปัญหาระบบลำไส้เช่นกัน
!! ประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนมุมมองของคุณ !!
ประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน เสียชีวิตเพราะวิธีการทางหัตถการที่เรียกว่า
“ Bleeding” ซึ่งชาวอียิปต์ใช้มานับหลายพันปี หลักคิดของวิธีการนี้คือ... โรคเกิดจากการมี “เลือดเสีย”หรือ “ผีสิง” หัตถกรมีหน้าที่ตัดหลอดเลือดเพื่อให้เลือดเสียหรือผีที่สิงอยู่ออกจากร่างและจ่าย Quicksiver ... Quicksiver ก็คือปรอทซึ่งเป็นสุดยอดของการทำลายระบบประสาท ในอดีตแพทย์นิยมใช้กันมากสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อและเป็นเรื่องน่าขำที่ว่า ไม่ว่าจะป่วยด้วยโรคอะไร Quicksilver จะถูกนำมาใช้ในทันที
เกิดอะไรขึ้นกับการแพทย์แผนปัจจุบันในเรื่องยาจิตเวช..พวกเขาตั้งสมมุติฐานของโรคไว้บนพื้นฐาน “สารเคมีในสมอง” หรือ “อาการผิดปกติทางจิต” ซึ่งไม่ได้เยียวยาสำหรับโรคแพนิค ซึมเศร้าและไบโพล่า พวกเขาแค่จ่ายสารพิษเพื่อเปลี่ยนแปลงอาการ ....
ดังนั้น..การแก้ที่สาเหตุของ โรคแพนิค ซึมเศร้าและไบโพล่า ก็คือเพิ่มการสร้าง เซอโรโทนินซึ่งร้อยละ 90 ถูกสร้างในลำไส้โดยการ :
-ปรับปรุงคุณภาพลำไส้
-ปรับสภาพแวดล้อมของลำไส้
-ปรับปรุงระบบการย่อย
-ปรับปรุงระบบการดูดซึมแร่ธาตุ
.......................................
กายวิภาคศาสตร์ของโรค
.......................................
การย่อยเริ่มที่การได้กลิ่นอาหารซึ่งจะไปกระตุ้นสมองให้หลั่งกรดในกระเพาะอาหาร จากนั้นน้ำลายจะเริ่มย่อยคาร์โบไฮเดรท ส่วนโปรตีนจะถูกย่อยในกระเพาะอาหารและไขมันจะถูกย่อยในลำไส้..นี่คือกระบวนการที่สวยงามของระบบการย่อยซึ่งจะย่อยโปรตีนไปเป็นกรดอะมิโน คาร์โบไฮเดรทไปเป็นน้ำตาลที่ใช้งานได้และไขมันไปเป็นกรดไขมัน คุณมีปากเพื่อเคี้ยวอาหารที่ต่อกับหลอดอาหารเพื่อส่งอาหารเข้าสู่กระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารต่อกับลำไส้เล็กและสารอาหารต่าง ๆ ถูกดูดซับที่นี่ ที่สำคัญคือ...เซอโรโทนินถูกสร้างที่นี่
!! และโปรดจำไว้ว่า !!!
อะไรก็ตามที่สามารถสร้างความเสียหายแก่ลำไส้เล็กจะส่งผลต่อการสร้างเซอโรโทนินเสมอ ในทางกลับกันเมื่อเซอโรโทนินถูกสร้างไม่ได้ ภาวะต่าง ๆ ก็จะเกิดขึ้นดังได้กล่าวไว้ข้างต้น
และถ้าคุณไม่สามารถย่อยโปรตีน ไขมันและคาร์โบไฮเดรทได้ คุณจะจบลงที่การขาดสารอาหารซึ่งเป็นที่ต้องการของทุกเนื้อเยื่อและทุกกระบวนการที่สำคัญของร่างกาย รวมไปถึงการสร้างภูมิต้านทานและสุขภาพโดยรวม
...จินตนาการ...เมื่อเข้าสู่วัยชราก็จะมีความเหี่ยวย่นและตีนกา สิ่งนี้บอกอะไร!!
สิ่งนี้บอกว่า..คุณไม่สามารถย่อยโปรตีนได้ดีเท่ากับวัยหนุ่มสาว คุณกำลังขาดกรดอะมิโนซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพ คุณขาดเอ็นไซม์ในการย่อยโปรตีนให้กลายไปเป็นกรดอะมิโนหรือคุณมีความเครียดในระบบการย่อยอาหารและคุณก็สามารถหาได้จากการรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินเพื่อปรับปรุงการพร่องนี้หรือคุณสามารถปั่นอาหารของคุณเพื่อชดเชยการขาดกรดในกระเพาะอาหาร
และนี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่มักจะถูกมองข้ามหรือไม่แต่จะระลึกถึงจากการแพทย์ในทุกวันนี้ จนก่อปัญหา..” ลำไส้รั่ว” ซึ่งหมายถึงภาวะที่โปรตีนที่ไม่ได้รับการย่อยเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือดและร่างกายจะสั่งโจมตีโปรตีนเหล่านั้นในฐานะผู้บุกรุกซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอีกมากมาย
..คุณคือใคร..
คุณสร้างเซลล์นับพันล้านเซลล์ต่อวันและการสร้างเหล่านี้ได้มาจากสารอาหารที่คุณกินเข้าไปในแต่ละวันนั่นหมายความว่าอะไรก็ตามที่คุณกินเข้าไปมันจะกลายไปเป็นตัวคุณ
!!! ทุกอย่างเริ่มต้นที่ลำไส้!!!!
เกือบทุกโรคมีพื้นฐานจากการทำงานที่ผิดปรกติของลำไส้ อะไรก็ตามที่สามารถทำลายวิลไลในลำไส้เล็กหรืออะไรก็ตามที่ทำลายระบบการย่อยก็สามารถเป็นต้นเหตุของทุกอาการทางสมองได้เช่นกัน
มียาและสารเคมีมากมายในทุกวันนี้ที่สามารถสร้าง “รูรั่ว”ในลำไส้ และถ้าลำไส้คุณมีรูรั่ว มันก็คือ “ ลำไส้รั่ว” ที่เป็นต้นเหตุของโรคภูมิแพ้ แพ้ภูมิ
.................................................
Excitotoxins หนึ่งในสาเหตุที่มักถูกมองข้าม..
.................................................
ผงปรุงรส สารให้ความหวานสังเคราะห์คือสุดยอดแห่งสุดยอดของการเป็นพิษต่อระบบประสาท มันมุ่งตรงเข้าเล่นงานส่วนกลางของสมองอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนท้ายที่สุดแสดงให้เห็นโรคได้อย่างชัดเจน ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
พึงสังเกตระบบขับถ่าย ระบบการย่อย และอุจจาระของคุณ
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
สวัสดี
ขอบคุณ Dr.John Bergman